Author Archives: SamuelJones

7 เมนูคลีนเผ็ดๆ 2567

7 เมนูคลีนเผ็ดๆ แซ่บโดนใจ เผ็ดซี๊ดเผ็ดซี้ด สุขภาพดีปี 2024 ปีใหม่แล้วสายสุขภาพหลายคนคงมองหาเมนูคลีนไว้ดูแลรูปร่างและสุขภาพกันอยู่ใช่มั้ยคะ แต่จะกินคลีนทั้งทีก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่อร่อย เพราะวันนี้เราได้รวบรวมเมนูคลีนเผ็ดๆ แซ่บๆ ที่ทั้งได้ประโยชน์และอร่อยมาให้แล้ว รับรองว่าทานได้ทุกวัน ไม่จำเจแน่นอน ส้มตำไทย เมนูสุดคลาสสิกที่ขึ้นชื่อเรื่องความแซ่บ เผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน กำลังดี ที่สำคัญอุดมไปด้วยผักผลไม้ เช่น มะละกอ มะเขือเทศ พริก กระเทียม หอมแดง ให้ทั้งวิตามินและไฟเบอร์เต็มๆ ลาบหมู เมนูอาหารอีสานรสจัดจ้านที่ทั้งแซ่บ เผ็ด เปรี้ยว กลมกล่อม โดยใช้เนื้อหมูสับคลุกเคล้ากับเครื่องสมุนไพรต่างๆ ได้โปรตีนและไฟเบอร์ พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระจากสมุนไพร ต้มแซ่บไก่ ซดคล่องคอด้วยต้มแซ่บไก่รสแซ่บ ครบรส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด เผ็ดจากพริกสด ต้มแซ่บไก่ที่ปรุงแบบคลีนๆ ก็ช่วยเติมโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ได้อีก แกงส้มปลากระพง ผสานรสชาติเปรี้ยวเผ็ดคล่องคอด้วยน้ำแกงส้มเข้มข้น และเนื้อปลากระพงที่อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพดี พร้อมสารอาหารและวิตามินจากผักต่างๆ ผัดฉ่าทะเล รับโปรตีนและโอเมก้าจากเมนูผัดฉ่าทะเลที่ทั้งแซ่บ เผ็ด […]

6 ทริคเด็ดที่ช่วยทำให้ผมยาวขึ้น

6 เคล็ดลับเด็ดที่ช่วยทำให้ผมยาวสวยดั่งใจ สำหรับสาวๆ ที่อยากมีผมยาวสลวยดุจดั่งนางพญา แต่กลับประสบปัญหาผมสั้นไม่ยอมยาวเสียที ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเรามีเคล็ดลับที่ช่วยทำให้ผมยาวเร็วมาฝาก หมั่นตัดแต่งปลายผมเป็นประจำ: ปลายผมที่แห้งแตกจะมีส่วนทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย ดังนั้นจึงควรหมั่นตัดแต่งปลายผมอย่างน้อยทุกๆ 6-8 สัปดาห์ เพื่อกำจัดส่วนที่แห้งเสียออกไป นวดหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต: การนวดหนังศีรษะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซึ่งส่งผลให้รากผมได้รับสารอาหารมากขึ้น ผมจึงแข็งแรงและยาวเร็วขึ้น ลองใช้นิ้วนวดเบาๆ บริเวณหนังศีรษะเป็นเวลา 5-10 นาทีทุกวัน ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผม: ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ตรงกับสภาพเส้นผมของตนเอง เพื่อลดการทำลายและช่วยบำรุงให้ผมแข็งแรง ยกตัวอย่างเช่น ผมแห้งควรใช้แชมพูและครีมนวดสำหรับผมแห้ง เป็นต้น หมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าวอย่างสม่ำเสมอ: น้ำมันมะพร้าวมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผม ทำให้สุขภาพผมดี หล่อเลี้ยงเส้นผมให้แข็งแรง ลดการขาดร่วง และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้อย่างดี ให้หมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าวอุ่นๆ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม: เส้นผมต้องการสารอาหารที่หลากหลายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้เส้นผม ควรกินอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่วเหลือง และควินัว รวมถึงอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินซี วิตามินอี ไบโอติน และสังกะสี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ เพราะในขณะที่นอนหลับร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน ซึ่งมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม […]

6 นิสัยเสียสุขภาพจิต

6 นิสัยที่ทำร้ายสุขภาพจิต มัวหมองในอดีต การจมปลักอยู่กับเหตุการณ์ในอดีต การคร่ำครวญคร่ำครวญความผิดพลาดในอดีตหรือสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ อาจนำไปสู่ความคิดเชิงลบ ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวล กังวลเรื่องอนาคต การมัวแต่กังวลเรื่องอนาคตอย่างไม่รู้จบ เช่น การหมกมุ่นอยู่กับผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด หรือการพยายามคาดการณ์สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ อาจทำให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล และความรู้สึกไม่มั่นใจ เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง มักจะนำไปสู่ความรู้สึกไม่เพียงพอ ภาวะซึมเศร้า และความภาคภูมิใจในตนเองลดลง หลีกหนีปัญหา แทนที่จะเผชิญกับปัญหา การหลีกหนีความรู้สึกไม่สบายหรือสถานการณ์ที่เครียด อาจนำไปสู่ความวิตกกังวล ความหดหู่ และความสัมพันธ์ที่บกพร่อง ขาดการดูแลตนเอง การละเลยการดูแลตนเอง เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดี การนอนไม่หลับ และการออกกำลังกายไม่เพียงพอ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต โดยทำให้เกิดความเหนื่อยล้า อารมณ์แปรปรวน และความยากลำบากในการควบคุมความคิดและอารมณ์ ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ การอยู่ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่มีพิษหรือไม่เอื้ออำนวย อาจนำไปสู่การหลงผิด การสูญเสียความมั่นใจในตนเอง และความเครียดอย่างต่อเนื่อง

3 ขั้นตอนลดอาการคัดจมูกง่ายๆ

ขั้นตอนง่ายๆ ลดอาการคัดจมูก อาการคัดจมูกเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นหวัด คัดจมูกเป็นอาการที่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตัว เพราะหายใจลำบาก นอนหลับไม่สนิท และส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน สาเหตุของอาการคัดจมูก อาการคัดจมูกอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ได้แก่ หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ โรคภูมิแพ้อากาศ ไซนัสอักเสบ โพรงจมูกคดเบี้ยว การใช้ยาบางชนิด 3 ขั้นตอนง่ายๆ ลดอาการคัดจมูก การลดอาการคัดจมูกมีวิธีที่หลากหลาย ดังนี้ 1. ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือจะช่วยล้างทำความสะอาดสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ออกจากจมูก ทำให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น 2. ใช้เครื่องพ่นไอน้ำ การพ่นไอน้ำจะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้ทางเดินหายใจชุ่มชื้นขึ้นและเป็นผลให้หายใจได้สะดวกขึ้น 3. ใช้ยาลดการคัดจมูก ยาลดการคัดจมูกมีทั้งชนิดที่ออกฤทธิ์ทั่วทั้งร่างกายและชนิดที่ออกฤทธิ์เฉพาะที่ ช่วยกระชับเส้นเลือดในจมูก ช่วยลดการอักเสบและอาการคัดจมูก หากอาการคัดจมูกไม่ดีขึ้นหลังจากใช้มาตรการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสม

งาขี้ม้อน หรืองาขี้ม่อน ประโยชน์ไม่ธรรมดา มีโอเมก้า 3 และ 6 สูง !

งาขี้ม้อน (งาขี้ม่อน) ประโยชน์ไม่ธรรมดา มีโอเมก้า 3 และ 6 สูง! งาขี้ม้อน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า งาขี้ม่อน เป็นพืชตระกูลถั่วที่มีสรรพคุณทางยาและโภชนาการมากมาย งาขี้ม่อนมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ประโยชน์ของงาขี้ม้อน นอกจากโอเมก้า 3 และ 6 แล้ว งาขี้ม้อนยังมีประโยชน์อื่นๆ ต่อสุขภาพอีกมากมาย ได้แก่ บำรุงหัวใจและหลอดเลือด: โอเมก้า 3 ในงาขี้ม้อนช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดความเสี่ยงมะเร็ง: งาขี้ม้อนมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่อาจนำไปสู่การเกิดมะเร็ง บำรุงสมอง: โอเมก้า 3 ในงาขี้ม้อนมีความสำคัญต่อการทำงานของสมองและช่วยป้องกันการเสื่อมถอยของระบบประสาท เสริมสร้างกระดูก: งาขี้ม้อนเป็นแหล่งแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับการสร้างและดูแลสุขภาพกระดูก ลดอาการอักเสบ: งาขี้ม้อนมีสารต้านการอักเสบที่ช่วยบรรเทาอาการปวดและบวมในร่างกาย รักษาสมดุลของฮอร์โมน: งาขี้ม้อนมีไฟโตเอสโตรเจนซึ่งเป็นสารที่ช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนในผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยหมดประจำเดือน ช่วยให้นอนหลับสบาย: งาขี้ม้อนมีเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายและยาวนานขึ้น บำรุงผิวพรรณ: งาขี้ม้อนมีวิตามินอีซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดและมลพิษ ส่งเสริมระบบย่อยอาหาร: งาขี้ม้อนมีเส้นใยอาหารที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติและป้องกันอาการท้องผูก เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: งาขี้ม้อนมีซิงค์ […]

การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันหน้า ทำอย่างไรให้ไขมันติดได้นาน

การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันหน้า หลังจากการฉีดไขมันหน้า การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ไขมันติดได้นานและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการฉีดไขมันหน้า: หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าแรงๆ ในช่วง 2-3 วันแรกหลังการฉีดไขมันหน้า ควรหลีกเลี่ยงการกด นวด หรือสัมผัสหน้าแรงๆ เพราะอาจทำให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ได้ ประคบเย็น การประคบเย็นบนใบหน้าเป็นเวลา 15-20 นาทีทุกๆ ชั่วโมงในช่วง 2-3 วันแรกหลังการฉีดไขมันหน้า จะช่วยลดอาการบวมและช้ำได้ นอนหัวสูง การนอนหัวสูงในช่วง 2-3 วันแรกหลังการฉีดไขมันหน้า จะช่วยลดอาการบวมได้ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และยาบางชนิด การดื่มแอลกอฮอล์ และการรับประทานยาบางชนิด เช่น แอสไพริน หรือไอบูโปรเฟน อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเลือดออกและช้ำได้ หลีกเลี่ยงแสงแดด แสงแดดอาจทำให้เกิดการอักเสบและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังการฉีดไขมันหน้า ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด แพทย์จะให้คำแนะนำเฉพาะในการดูแลตัวเองหลังการฉีดไขมันหน้า โดยควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Atkins Diet คืออะไร ลดอย่างไร ให้ผอมได้อย่างปลอดภัย

Atkins Diet คืออะไร Atkins Diet เป็นแผนการกินที่เน้นการจำกัดคาร์โบไฮเดรตเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันมาใช้เป็นพลังงานแทน สร้างภาวะคีโทซิส (Ketosis) ซึ่งเป็นภาวะที่ตับเปลี่ยนไขมันบางประเภทเป็นกรดไขมันอิสระ (Free Fatty Acids) และสารคีโทน (Ketone Bodies) ซึ่งสมองและอวัยวะอื่นๆ สามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้ Atkins Diet ลดอย่างไร ให้ผอมได้อย่างปลอดภัย แผนการลดน้ำหนักแบบ Atkins Diet จะแบ่งออกเป็น 4 ระยะดังนี้ ระยะ 1: Induction (2 สัปดาห์) บริโภคคาร์โบไฮเดรตต่ำมากประมาณ 20 กรัมต่อวัน เน้นรับประทานเนื้อสัตว์ ไข่ ปลา อาหารทะเล ผักใบเขียว ไขมันดี ระยะ 2: Ongoing Weight Loss ค่อยๆ เพิ่มคาร์โบไฮเดรตทีละน้อย แต่ยังคงจำกัดไว้ที่ 50 กรัมต่อวัน เริ่มเพิ่มผลไม้ ถั่ว และผักที่เป็นแป้ง ระยะ […]

หน้าตอบ เกิดจากอะไร แก้ยังไงได้บ้าง

สาเหตุของภาวะหน้าตอบ ภาวะหน้าตอบเกิดจากการสูญเสียน้ำหนักทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ ดังนี้ การขาดสารอาหาร: ภาวะขาดสารอาหาร เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และวิตามินบางชนิด สามารถนำไปสู่การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ทำให้ใบหน้าตอบได้ การเจ็บป่วยเรื้อรัง: โรคบางอย่าง เช่น มะเร็ง เอดส์ และโรคเรื้อรังอื่นๆ สามารถทำให้เกิดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกาย รวมถึงบริเวณใบหน้า อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะเริ่มสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ بشكل طبيعي ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าตอบลงได้ ปัจจัยด้านพันธุกรรม: บางคนอาจมีโครงสร้างใบหน้าที่เล็กหรือบางตามธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าดูตอบได้ง่ายกว่าคนอื่น การไม่รับประทานอาหาร: การไม่รับประทานอาหารหรือการจำกัดปริมาณการรับประทานอาหารอย่างรุนแรง สามารถทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและสูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ วิธีแก้ไขภาวะหน้าตอบ การแก้ไขภาวะหน้าตอบทำได้โดยการแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะใบหน้าตอบ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์: รับประทานอาหารที่มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และวิตามินที่เพียงพอเพื่อช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ รักษาโรคเรื้อรัง: หากภาวะหน้าตอบเกิดจากโรคเรื้อรัง ให้รักษาโรคหลักเพื่อป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายแบบเสริมสร้างกล้ามเนื้อสามารถช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและลำตัวได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลใบหน้า: ผลิตภัณฑ์ดูแลใบหน้าบางชนิด เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิคหรือคอลลาเจน สามารถช่วยให้ใบหน้าดูอวบอิ่มขึ้นได้ การฉีดสารเติมเต็ม: การฉีดสารเติมเต็ม เช่น ไฮยาลูรอนิคแอซิด สามารถช่วยเติมเต็มบริเวณที่ตอบบนใบหน้าได้ แต่เป็นวิธีแก้ไขที่ชั่วคราวและต้องทำซ้ำเป็นระยะ

วันพยาบาลสากล 12 พฤษภาคม สดุดีวิชาชีพเพื่อมวลชน

วันพยาบาลสากล 12 พฤษภาคม สดุดีวิชาชีพเพื่อมวลชน วันพยาบาลสากลตรงกับวันที่ 12 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ “ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล” ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น “บิดาแห่งวิชาชีพการพยาบาล” เนื่องจากการอุทิศตนเพื่อการพัฒนาวิชาชีพการพยาบาลและการปฏิรูปการดูแลสุขภาพ รวมถึงการริเริ่มการใช้การพยาบาลสมัยใหม่ในช่วงสงครามไครเมีย วันพยาบาลสากลเป็นวันสำคัญที่เชิดชูและระลึกถึงความเสียสละและการทำงานอย่างหนักของพยาบาลทั่วโลก เนื่องจากพยาบาลมีบทบาทสำคัญในการให้บริการด้านสุขภาพและการดูแลผู้ป่วย โดยมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาพยาบาล และฟื้นฟูสุขภาพ ทั้งในโรงพยาบาล คลินิก ชุมชน และสถานดูแลอื่นๆ ในวันพยาบาลสากล พยาบาลทั่วโลกจะได้รับการสดุดีและยกย่องให้เกียรติสำหรับการทำงานหนัก ความทุ่มเท และความเมตตากรุณาในการดูแลผู้ป่วยและครอบครัวของพวกเขา ตลอดจนความมุ่งมั่นในการพัฒนาวิชาชีพ เมื่อมนุษยชาติเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 บทบาทของพยาบาลก็ยิ่งสำคัญยิ่งขึ้น พวกเขาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

รีวิว ดูดไขมัน Tripletite ดูแลจบครบสูตร ได้หุ่นเป๊ะแบบ 360 องศา

รีวิว ดูดไขมัน Tripletite ดูแลจบครบสูตร ได้หุ่นเป๊ะแบบ 360 องศา การดูดไขมัน Tripletite เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของวงการแพทย์ด้านความงามที่ผสานเอาสุดยอดเทคโนโลยี 3 ระบบไว้ด้วยกัน ได้แก่ Vaser, VASER LipoSelection และ J-Plasma นำไปสู่การกำจัดไขมันส่วนเกิน พร้อมกระชับผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วกว่าเดิมถึง 3 เท่า และด้วยการพัฒนาขึ้นเป็นรุ่นใหม่ที่มีระบบ VASER LipoSelection จึงเพิ่มประสิทธิภาพในการสลายไขมันบริเวณหน้าท้อง เอว สะโพก ต้นแขน ต้นขา และเหนียงให้แม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้น หลังจากการดูดไขมัน Tripletite จะมีการตรวจเช็กร่างกายโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด พร้อมด้วยบริการนวดกระชับสัดส่วนโดยพยาบาลวิชาชีพ เพื่อช่วยให้รูปร่างกระชับได้สัดส่วนและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจยิ่งขึ้น พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและดูแลรูปร่างในระยะยาว

ขาแตกลาย ปัญหากวนใจของสาว ๆ ที่ทำให้ไม่มั่นใจในตนเอง

ขาแตกลาย ปัญหากวนใจของสาว ๆ ที่ทำให้ไม่มั่นใจในตนเอง ขาแตกลาย หรือ Stretch Marks คือรอยแตกลายที่เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังถูกยืดออกหรือหดตัวอย่างรวดเร็วเกินไป มักพบในผู้หญิงตั้งครรภ์ วัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว หรือผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มหรือลดลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุที่ทำให้เกิดขาแตกลายคือการฉีกขาดของชั้นหนังแท้ (Dermis) ที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เนื่องจากการขยายตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็ว ทำให้ชั้นหนังแท้ฉีกขาดและทำให้เกิดรอยแผลเป็นขึ้น ซึ่งในระยะแรกจะเป็นสีแดงหรือม่วง แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะจางลงและกลายเป็นสีขาวหรือสีเงิน ขาแตกลายเป็นภาวะที่พบบ่อยและไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่กลับสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ที่มี โดยเฉพาะผู้หญิง ซึ่งมักทำให้รู้สึกอับอายและไม่กล้าสวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยผิวหนังบริเวณที่มีรอยแตกลาย

เจ็บนม อาการคัดเต้า ที่พบบ่อยของผู้หญิง ไม่ควรนิ่งนอนใจ

เจ็บเต้านม อาการคัดเต้าที่พบบ่อยในผู้หญิง เจ็บเต้านมเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้หญิง ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตร อาการเจ็บเต้านมสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งสองข้างหรือข้างเดียวก็ได้ และอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาการบวม แดง ร้อน หรือรู้สึกหนักหน้าอก อาการมักจะรุนแรงขึ้นก่อนมีประจำเดือน แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สาเหตุของอาการเจ็บเต้า สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการเจ็บเต้านมคือความแปรปรวนของฮอร์โมนในช่วงรอบประจำเดือน โดยปกติแล้วอาการจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของรอบเดือนเมื่อระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงขึ้น ฮอร์โมนนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเนื้อเยื่อเต้านม ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บและบวม นอกจากนี้ยังอาจเกิดจาก การตั้งครรภ์ การให้นมบุตร การใช้ยาคุมกำเนิด การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน การติดเชื้อที่เต้านม อาการบาดเจ็บที่เต้านม มะเร็งเต้านม เมื่อไหร่ควรพบแพทย์? แม้ว่าอาการเจ็บเต้านมส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่ก็มีบางกรณีที่อาจบ่งบอกถึงอาการของโรคที่ร้ายแรงกว่า ซึ่งควรพบแพทย์หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ อาการเจ็บเต้านมรุนแรงขึ้นหรือไม่หายไป อาการเจ็บเต้านมเกิดขึ้นเฉพาะที่หรือกระจุกอยู่ในบางจุด อาการเจ็บเต้านมมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น การตกขาวจากหัวนม ผิวหนังบริเวณเต้านมอักเสบ หรือมีก้อนที่เต้านม คุณอายุมากกว่า 50 ปีและสังเกตเห็นอาการเจ็บเต้านมใหม่ๆ