Author Archives: WilliamDavis

อยากลดแก้มตอบ เพิ่มแก้มส้ม อยากหน้าเด็กลงต้องทำสิ่งนี้ แก้มตอบเป็นปัญหาที่กวนใจใครหลายคน โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต้องการมีใบหน้าอวบอิ่ม เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล การมีแก้มตอบส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม อิดโรย ดูเหมือนคนป่วย ขาดความสดใส และดูแก่กว่าวัย หากใครที่มีปัญหาแก้มตอบ ลองทำตามวิธีเหล่านี้เพื่อลดแก้มตอบและเพิ่มแก้มส้มให้ใบหน้าดูเด็กลงได้ วิธีลดแก้มตอบ เพิ่มแก้มส้ม ง่ายๆ ดื่มน้ำให้มากๆ น้ำช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูอวบอิ่ม เปล่งปลั่ง จากภายใน นอกจากนี้น้ำยังช่วยกำจัดของเสียที่ตกค้างในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณแลดูสดใสยิ่งขึ้น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีน จะช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย นวดหน้า การนวดหน้าจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหน้ามากขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้าดูมีเลือดฝาด เปล่งปลั่งขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สมส่วน ผิวพรรณดี และดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส เปล่งปลั่งขึ้น ใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของไฮยาลูโรนิก แอซิด ไฮยาลูโรนิก แอซิดเป็นสารที่สามารถอุ้มน้ำได้มากกว่าน้ำหนักของตนเองถึง 1,000 […]

การฉีดไขมันหน้าอยู่ได้นานไหม การฉีดไขมันหน้าสามารถอยู่ได้นานประมาณ 3-5 ปี แต่ระยะเวลาการอยู่ของไขมันที่ฉีดเข้าไปนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ เทคนิคการฉีด: การฉีดไขมันโดยใช้เทคนิค Superwet หรือ Nano Fat จะช่วยให้ไขมันอยู่ได้นานขึ้น คุณภาพไขมันที่ใช้ฉีด: ไขมันที่มีคุณภาพดีจะช่วยเพิ่มอัตราการอยู่รอดของไขมันที่ฉีดเข้าไป การดูแลหลังการฉีด: การดูแลรักษาแผลอย่างถูกต้องและการนวดบริเวณที่ฉีดจะช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดมาเลี้ยงไขมันที่ฉีดเข้าไป ทำให้ไขมันอยู่ได้นานขึ้น วิธีการป้องกันไม่ให้ไขมันสลายตัวเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปสลายตัวเร็ว มีวิธีการปฏิบัติดังนี้ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก: การออกกำลังกายหนักและกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากจะเพิ่มการไหลเวียนเลือด ซึ่งอาจทำให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปสลายตัวได้เร็วขึ้น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: การรับประทานอาหารที่มีสุขภาพดีและเน้นโปรตีนจะช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ช่วยพยุงไขมันที่ฉีดเข้าไป หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดหดตัวและลดการไหลเวียนเลือด ทำให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปได้รับสารอาหารน้อยลงและสลายตัวได้เร็วขึ้น นวดบริเวณที่ฉีดอย่างสม่ำเสมอ: การนวดบริเวณที่ฉีดไขมันจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและการสร้างเส้นเลือดใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการอยู่รอดของไขมันที่ฉีดเข้าไป

หน้าท้องแบบไหนไม่ควรดูดไขมัน? หน้าท้องหย่อนคล้อยมีชั้นไขมันบาง: หากคุณมีหน้าท้องหย่อนคล้อยและมีชั้นไขมันเพียงเล็กน้อย การดูดไขมันอาจไม่เหมาะสำหรับคุณ เนื่องจากอาจทำให้หน้าท้องของคุณดูแย่ลงได้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการดูดไขมันมักจะดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีชั้นไขมันที่หนากับแน่น หน้าท้องที่มีผิวหนังยืดยนไม่ได้: หากคุณมีผิวหนังที่ยืดได้ไม่ดีบริเวณหน้าท้อง การดูดไขมันอาจทำให้ผิวหนังของคุณหย่อนคล้อยมากขึ้นได้ เนื่องจากการดูดไขมันจะเอาไขมันออกทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยลง หน้าท้องที่มีแผลเป็นหรือรอยแตก纹: การดูดไขมันอาจทำให้แผลเป็นหรือรอยแตก纹บนหน้าท้องของคุณ顯ชัดมากขึ้น เนื่องจากการดูดไขมันจะทำให้ผิวหนังบางลง ห้ามสูบบุหรี่: บุหรี่สกัดกั้นไม่ให้ออกซิเจนไปเลี้ยงผิวหนัง ทำให้ช้าและยับยั้งกระบวนการฟื้นฟูแผล ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อและแผลเป็น ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร: การดูดไขมันอาจไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากอาจส่งผลต่อทั้งมารดาและทารก โรคเรื้อรังบางชนิด: ผู้ที่มีโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคเบาหวานหรือโรคหัวใจ อาจไม่เหมาะสำหรับการดูดไขมัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้

ผู้ชายกินยาคุม กินเพื่ออะไร ยาคุมกำเนิดเป็นฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์ทางเดียวหรือหลายอย่าง ซึ่งใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในผู้หญิง อย่างไรก็ตาม ผู้ชายบางครั้งก็อาจใช้ยาคุมกำเนิดได้เช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะไม่แนะนำให้ผู้ชายใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อการคุมกำเนิด แต่พวกเขาอาจใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ได้ การใช้ยาคุมกำเนิดในผู้ชาย ผู้ชายอาจใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้: เพื่อลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายข้ามเพศ เพื่อรักษาภาวะต่อมลูกหมากโต เพื่อรักษาอาการผมร่วงจากฮอร์โมน เพื่อลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก ผลข้างเคียงของการใช้ยาคุมกำเนิดในผู้ชาย ผลข้างเคียงของการใช้ยาคุมกำเนิดในผู้ชายอาจรวมถึง: อาการทางเพศ เช่น ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การลดลงของความต้องการทางเพศ อัณฑะหด การเจริญเติบโตของเต้านม อารมณ์แปรปรวน การเพิ่มน้ำหนัก ปัญหาตับ การแก้ปัญหากรณีที่นมแหลมจากการใช้ยาคุมกำเนิด หากผู้ชายประสบปัญหานมแหลมจากการใช้ยาคุมกำเนิด พวกเขาควรหยุดใช้ยาคุมกำเนิดและไปพบแพทย์ ในบางกรณี การผ่าตัดอาจจำเป็นเพื่อขจัดเนื้อเต้านมที่ขยายใหญ่ขึ้น

คอเป็นรอยพับ สาเหตุเกิดจากอะไร คอเป็นรอยพับ เป็นอาการที่พบบ่อยที่ทำให้เกิดรอยพับหรือรอยย่นบนผิวหนังบริเวณคอ สาเหตุที่ทำให้เกิดคอเป็นรอยพับ ได้แก่ อายุ: เมื่อเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นจะลดลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและเกิดรอยพับได้ การสูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็ว: เมื่อสูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ผิวหนังจะไม่ทันหดตัว ปล่อยให้มีผิวหนังส่วนเกินเกิดขึ้น ทำให้เกิดรอยพับได้ แสงแดด: การสัมผัสรังสียูวีของดวงอาทิตย์สามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยและรอยพับ พันธุกรรม: บางคนมีแนวโน้มที่จะมีคอเป็นรอยพับมากกว่าคนอื่น เนื่องจากพันธุกรรม การนอนในท่าที่ไม่ดี: การนอนในท่าคว่ำหรือหนุนหมอนที่สูงเกินไปสามารถสร้างแรงกดทับบนคอและทำให้เกิดรอยพับได้ วิธีป้องกันคอเป็นรอยพับ มีหลายวิธีที่สามารถช่วยป้องกันคอเป็นรอยพับ ได้แก่ ใช้ครีมกันแดด: การใช้ครีมกันแดดสามารถปกป้องผิวหนังจากรังสียูวีที่เป็นอันตราย มอยส์เจอไรเซอร์: การใช้มอยส์เจอไรเซอร์สามารถช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้นและยืดหยุ่น ซึ่งจะช่วยลดการเกิดริ้วรอยและรอยพับ นอนในท่าที่เหมาะสม: การนอนในท่านอนหงายและหนุนหมอนที่รองรับคออย่างเหมาะสมสามารถช่วยลดแรงกดทับและป้องกันคอเป็นรอยพับ เลิกบุหรี่: การสูบบุหรี่จะทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ซึ่งจะทำให้เกิดริ้วรอยและรอยพับ รักษาน้ำหนักให้คงที่: การรักษาน้ำหนักให้คงที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังย้วยเกินและเกิดรอยพับ

การเลือกดูดไขมันกับหมอหนึ่งและทีมแพทย์ที่รัตตินันท์ มีข้อดีอย่างไร ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่ยาวนาน หมอหนึ่งและทีมแพทย์ที่รัตตินันท์มีประสบการณ์ในด้านการดูดไขมันมานานหลายปี โดยได้ผ่านการดูแลเคสที่หลากหลาย ทำให้มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจในเทคนิคการดูดไขมันเป็นอย่างดี จึงสามารถให้คำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคลได้ เทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดภัย รัตตินันท์ใช้เทคโนโลยีการดูดไขมันที่ทันสมัยและปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล ซึ่งช่วยให้สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายเซลล์ผิวหนังบริเวณโดยรอบ และช่วยลดอาการบวมช้ำและระยะเวลาในการพักฟื้นได้ การวิเคราะห์รูปร่างและการออกแบบหุ่น ก่อนทำการดูดไขมัน ทีมแพทย์จะทำการวิเคราะห์รูปร่างและออกแบบหุ่นให้เหมาะกับสรีระของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม การดูแลหลังการรักษาที่ครบวงจร หลังจากการดูดไขมัน ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำและการดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิด รวมถึงการนัดหมายติดตามผลเป็นระยะ ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เข้ารับบริการจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและมีความปลอดภัย ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและยาวนาน เมื่อทำการดูดไขมันกับหมอหนึ่งและทีมแพทย์ที่รัตตินันท์ ผู้เข้ารับบริการสามารถมั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ที่น่าพอใจและยาวนาน เพราะทีมแพทย์จะคำนึงถึงการกระจายไขมันบริเวณต่างๆ เพื่อให้ได้รูปร่างที่ได้สัดส่วนและสมดุล

ประสบการณ์การผ่า cắtกระเพาะอาหาร ลดน้ำได้ 18 กก. ภายใน 1 เดือน การผ่า cắtลดขนาดกระเพาะอาหารเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีน้ำส่วนเกินมากๆ ช่วยให้ลดน้ำได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้เขียนเองก็ได้มีประสบการณ์ผ่า cắtกระเพาะอาหารมาเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว และรู้สึกพอใจกับผลที่ได้เป็นอย่างมาก จึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์นี้ให้กับผู้อื่นผู้ที่กำลังลังเลว่าจะทำหรือไม่ทำดี ก่อนผ่า น้ำที่ต้องลด 40 กิโลกรัม ส่วนสูง 170 น้ำ 110. อ้วนมาก่อนตั้งแต่เด็ก มีพฤติกรรมกินจุ กินขนม ลูกอม อัดน้ำอัดลม ชอบของมัน ของทอด ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ฝังลึกแกไขไม่ตก โดยวิธีการลดน้ำแบบปกติ ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ล้มเหลวสิ้นเชิง ลดได้ไม่ยั่งยื่น ลดยากขึ้นเรื่อยๆ และน้ำก็จะค่อยๆ ขึ้นมาเอง ทำให้ท้อใจมาก จึงได้มาศึกษาเรื่องการผ่ากระเพาะ จนได้รู้จักกับทีมศัลยกรรมกระเพาะอาหารของ รพ. หนึ่ง ได้ปรึกษากับคุณหมอนพ. อารักษ์ ซึ่งคุณหมอได้ให้คำปรึกษาทุกๆ อย่างอย่างดีมาก รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจจะตามมา ซึ่งมีน้อยมาก หลังผ่า ผ่าแบบส่องกล้องแผลเล็กมาก 4 จุด หลังผ่าฟื้นตัวดีมาก […]

กินไข่ต้มทุกวันดีต่อสุขภาพและช่วยลดน้ำหนักจริงหรอ? ไข่ต้มเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เช่น โปรตีน ไขมัน ไวตามิน และแร่ธาตุต่างๆ อย่างไรก็ตาม มีความเชื่อว่าการกินไข่ต้มทุกวันสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนความเชื่อนี้เป็นอย่างไร ประโยชน์ของการกินไข่ต้ม การกินไข่ต้มเป็นประจำมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ให้โปรตีนสูง: ไข่ต้ม 1 ฟองมีโปรตีนประมาณ 6 กรัม ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มและช่วยลดความอยากอาหาร อุดมไปด้วยไขมันดี: ไข่ต้มมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น โอเมก้า-3 ซึ่งช่วยลดการอักเสบและบำรุงสมองและหัวใจ มีวิตามินและแร่ธาตุ: ไข่ต้มมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามิน A วิตามิน D วิตามิน E และธาตุเหล็ก การกินไข่ต้มกับการลดน้ำหนัก งานวิจัยบางชิ้นพบว่าการกินไข่ต้มเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อลดน้ำหนักสามารถช่วยให้ลดน้ำหนักได้ โดยอาจช่วยลดการบริโภคแคลอรี่โดยรวมและช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม อย่างไรก็ตาม การกินไข่ต้มอย่างเดียวไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการลดน้ำหนัก การลดน้ำหนักอย่างมีสุขภาพดีจำเป็นต้องควบคุมแคลอรี่โดยรวมจากอาหารทั้งหมดที่บริโภค และการออกกำลังกายเป็นประจำ หากต้องการลดน้ำหนักโดยการกินไข่ต้ม ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อกำหนดปริมาณไข่ต้มที่เหมาะสมสำหรับร่างกาย ข้อควรระวัง แม้ว่าการกินไข่ต้มในปริมาณที่เหมาะสมจะดีต่อสุขภาพ แต่สำหรับบางคน ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ควรรู้ไว้ดังนี้ การแพ้ไข่: บางคนมีอาการแพ้ไข่ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ผื่น ริมฝีปากบวม หรือปัญหาในการหายใจ […]

วิธีทำให้รูฟิต แบบธรรมชาติ ทำง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน รูฟิตเป็นอาการที่รูเปิดทางเข้าช่องคลอดมีขนาดหย่อนยานกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การคลอดบุตร การมีเพศสัมพันธ์ การเพิ่มอายุ เป็นต้น แม้ว่าอาการรูฟิตจะไม่ใช่โรคร้ายแรงอันตรายใดๆ แต่ก็สร้างความกังวลใจให้กับสาวได้ไม่น้อยเลย วันนี้เราจึงมีวิธีทำให้รูฟิตแบบธรรมชาติ ทำง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้านมาฝาก รับรองว่าทำได้ง่าย และได้ผลลัพธ์ที่ดีแน่นอน วิธีทำให้รูฟิตแบบธรรมชาติ ทำได้อย่างไรบ้าง? 1. เพิ่มน้ำหนัก การเพิ่มน้ำหนักเป็นวิธีทำให้รูฟิตตามธรรมชาติที่ง่ายที่สุด วิธีนี้จะช่วยเพิ่มแรงกดในช่องท้อง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานแข็งแรงขึ้นส่งผลให้รูบริเวณช่องคลอดกระชับขึ้นนั่นเอง 2. การออกกำลังกาย ท่าบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน สามารถช่วยทำให้รูฟิตได้จริง ซึ่งท่าที่แนะนำ เช่น ท่าคีเกล (Kegels) ที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก ท่าบริหารกล้ามเนื้อช่องคลอด (Pelvic Floor Exercises) ท่าบริหารกล้ามเนื้อปัสสาวะ (Urinary Incontinence Exercises) 3. นวดกระตุ้นด้วยตนเอง การนวดกระตุ้นบริเวณรอบๆ ช่องคลอดสามารถช่วยทำให้รูฟิตได้ วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณดังกล่าว ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นแข็งแรงขึ้น และกลับมากระชับดังเดิมได้ 4. พักฟื้นหลังคลอดให้เพียงพอ คุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรใหม่ๆ ควรพักฟื้นให้เต็มที่อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ […]

วิธีลดพุง สำหรับคนไม่มีเวลา มาพร้อมตัวช่วยมากมาย เห็นผลจริง สำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายเป็นเวลานานๆ การลดพุงดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรามีเทคนิคเด็ดๆ มากมายที่จะช่วยให้คุณเผาผลาญไขมันหน้าท้องได้แบบรวดเร็ว แม้ว่าจะมีเวลาน้อยก็ตาม ปรับเปลี่ยนโภชนาการ ลดปริมาณแคลอรี่: เริ่มต้นด้วยการลดปริมาณแคลอรี่จากอาหารที่คุณรับประทานอยู่ทุกๆ วัน โดยโฟกัสไปที่อาหารที่มีคุณภาพและสารอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ตัดน้ำตาลและอาหารแปรรูป: น้ำตาลและอาหารแปรรูปจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและนำไปสู่การสะสมไขมันหน้าท้องได้ง่ายๆ ลด ละ หรือเลี่ยงเลยจะดีกว่า เน้นโปรตีนและไฟเบอร์: โปรตีนช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นและช่วยเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม ไฟเบอร์ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลและทำให้รู้สึกอิ่ม ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการลดน้ำหนักและลดพุง ออกกำลังกายเป็นช่วงสั้นๆ แต่หนักหน่วง คาร์ดิโอแบบแรงสั้นๆ (HIIT): ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในช่วงสั้นๆ แต่หนักหน่วงสลับกับช่วงพัก เช่น วิ่งเร็ว 30 วินาที แล้วตามด้วยเดินเร็วหรือพักอีก 30 วินาที ทำซ้ำประมาณ 10-15 นาที แทบาตะ: เป็นรูปแบบการออกกำลังกายแบบ HIIT อีกแบบหนึ่งที่ทำสลับกันระหว่างออกกำลังกายหนัก 20 วินาที กับพัก 10 วินาที ทำซ้ำ […]

อายุเท่าไรที่สามารถดูดไขมันได้ ไขข้อข้องใจไปกับทีมแพทย์จากรัตตินันท์ การดูดไขมันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน แต่หลายๆ คนก็ยังมีข้อสงสัยว่าอายุเท่าไรจึงจะเหมาะสมกับการดูดไขมัน ทีมแพทย์จากรัตตินันท์ขอไขข้อข้องใจดังนี้ โดยทั่วไปแล้ว บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ถือว่ามีอายุที่เหมาะสมในการเข้ารับการดูดไขมันได้ เนื่องจากระบบร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่และมีเสถียรภาพ แต่สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีอาจจะต้องมีการพิจารณาเป็นรายบุคคล เพราะอยู่ในช่วงที่ร่างกายยังเจริญเติบโต การดูดไขมันอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับการดูดไขมัน แต่แพทย์ก็จะพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น สุขภาพร่างกายโดยรวม น้ำหนักส่วนสูง ความยืดหยุ่นของผิวหนัง ปริมาณไขมันส่วนเกิน ความคาดหวังของผู้เข้ารับการรักษา ดังนั้น ผู้ที่สนใจดูดไขมันจึงไม่ควรยึดติดกับอายุเพียงอย่างเดียว แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและแนวทางการดูแลที่เหมาะสมให้กับแต่ละบุคคล