Category Archives: Blog

วันพยาบาลสากล 12 พฤษภาคม สดุดีวิชาชีพเพื่อมวลชน

วันพยาบาลสากล 12 พฤษภาคม วันพยาบาลสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 12 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองและสดุดีบทบาทของพยาบาลทั่วโลก วันนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันคล้ายวันเกิดของฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ผู้บุกเบิกวิชาชีพการพยาบาลและผู้ก่อตั้งโรงเรียนพยาบาลแห่งแรกในโลก พยาบาลทำหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งในการรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ของเรา พวกเขาให้การดูแลและการสนับสนุนแก่ผู้ป่วยและครอบครัวตลอดช่วงเวลาแห่งความเจ็บป่วยและการฟื้นตัว พยาบาลทำงานในสภาพแวดล้อมต่างๆ ตั้งแต่โรงพยาบาลและคลินิกไปจนถึงชุมชนและโรงเรียน ในวันพยาบาลสากล เราได้มีโอกาสที่จะแสดงความขอบคุณต่อพยาบาลที่ทำงานด้วยความทุ่มเทและเสียสละ พยาบาลทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนหลักสำหรับผู้ป่วยและเป็นส่วนสำคัญของระบบการดูแลสุขภาพของเรา วันนี้เป็นเวลาที่จะชื่นชมความพยายามของพยาบาลและจดจำผลกระทบที่พวกเขามีต่อชีวิตเรา

Myofunctional Therapy รักษาการนอนกรนด้วยการบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจ

Myofunctional Therapy: รักษาการนอนกรนด้วยการบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจ การนอนกรนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก อาจทำให้การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ นำไปสู่ภาวะง่วงนอนในเวลากลางวัน และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนด้านสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคหัวใจและความดันโลหิตสูง Myofunctional Therapy เป็นวิธีการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัดซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขสาเหตุของการนอนกรนโดยการฝึกกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจ Myofunctional Therapy ทำงานโดยฝึกกล้ามเนื้อของริมฝีปาก แก้ม ลิ้น และคอเพื่อให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม การรักษานี้ช่วยปรับปรุงกลไกการหายใจ ป้องกันไม่ให้อากาศไหลผ่านเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อยในทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของการนอนกรน นอกจากนี้ Myofunctional Therapy ยังช่วยปรับตำแหน่งของลิ้นให้ถูกต้อง ซึ่งอาจช่วยป้องกันการอุดตันทางเดินหายใจ การรักษาด้วย Myofunctional Therapy อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการนอนกรน ผู้ป่วยจะต้องทำแบบฝึกหัดเป็นประจำทุกวัน ซึ่งอาจรวมถึงการฝึกลิ้น การฝึกกล้ามเนื้อแก้ม และการบริหารริมฝีปาก การรักษานี้อาจทำได้ด้วยตัวผู้ป่วยเองที่บ้านหรือภายใต้การดูแลของนักบำบัดที่ผ่านการฝึกอบรม Myofunctional Therapy เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับการนอนกรนในหลายกรณี การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสามารถลดความรุนแรงของการนอนกรนได้ถึง 50% และในบางกรณีอาจรักษาการนอนกรนได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยประโยชน์ด้านสุขภาพและการนอนหลับที่เพิ่มขึ้น Myofunctional Therapy จึงเป็นตัวเลือกการรักษาที่คุ้มค่าพิจารณาสำหรับผู้ที่กำลังดิ้นรนกับการนอนกรน

10 วิธี ลดพุงหลังคลอด เพื่อให้ได้หุ่นที่สวยงามกลับมาอีกครั้ง

แก้ไขหุ่นสุดเป๊ะหลังคลอดด้วยเคล็ดลับลดพุงง่ายๆ การที่หน้าท้องจะมีขนาดใหญ่หลังคลอดนั้นถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากมดลูกที่ขยายตัวได้ดึงผิวหนังและกล้ามเนื้อรอบๆ ให้ยืดออก แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีวิธีมากมายที่คุณแม่สามารถนำมาใช้เพื่อลดพุงหลังคลอดและกลับมามีหุ่นที่สวยงามได้อีกครั้ง 1. เริ่มเคลื่อนไหวร่างกายหลังคลอด หลังจากคลอดบุตรแล้ว คุณแม่สามารถเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายได้โดยเริ่มจากการเดินในระยะสั้นๆ และค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาและความเข้มข้นของการออกกำลังกายเมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น 2. ฝึกบริหารกล้ามเนื้อช่วงหัว การบริหารกล้ามเนื้อช่วงหัวหรือกล้ามเนื้อหน้าท้องนั้นสามารถช่วยลดพุงได้อย่างดี โดยคุณสามารถทำท่าบริหารได้ง่ายๆ ที่บ้าน เช่น ท่าซิทอัป ท่าแพลงก์ และท่าครันช์ 3. ให้ความสำคัญกับการบริโภคอาหาร อาหารที่มีประโยชน์นั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ คุณแม่หลังคลอดควรบริโภคอาหารที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ ซึ่งอาหารเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและยังช่วยลดไขมันหน้าท้องได้อีกด้วย 4. ทานของว่างให้เหมาะสม คุณแม่หลังคลอดอาจมีอาการหิวบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ควรเลี่ยงการทานของว่างที่มีไขมันสูงและน้ำตาลสูง หันไปทานของว่างที่มีประโยชน์อย่างผลไม้ ผัก หรือนมไขมันต่ำแทน 5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยลดความอยากอาหารได้อีกด้วย 6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนไม่หลับพักผ่อนนั้นจะส่งผลให้ระดับฮอร์โมนบางชนิดในร่างกายเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้เกิดความอยากอาหารและเพิ่มการสะสมไขมัน 7. เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีแคลอรี่สูงและอาจทำให้เกิดการเพิ่มของน้ำหนักได้ 8. สวมกางเกงรัดหน้าท้อง การสวมกางเกงรัดหน้าท้องจะช่วยพยุงหน้าท้องและบีบรัดบริเวณเอวให้เข้ารูปมากยิ่งขึ้น 9. พบแพทย์เพื่อปรึกษา หากคุณแม่ประสบปัญหาในการลดพุงหลังคลอด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหารือถึงวิธีการรักษาที่เหมาะสม 10. อดทนและแน่วแน่ การลดพุงหลังคลอดนั้นต้องใช้เวลาและความอดทน […]

ทีมแพทย์รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ วิทยากรพิเศษ งานประชุมนานาชาติใหญ่แห่งปี 2567 (wcam 2567)

ศูนย์การแพทย์รามาธิบดี ได้รับเกียรติเป็นประชุมนานาชาติแห่ง 2567 (wcam 2567) ศูนย์การแพทย์รามาธิบดี มหาวิทยามหิดล มีความยินดีที่จะประกาศว่าได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพประชุมนานาชาติแห่ง 2567 (World Congress of Anaesthesiologists 2024: WCAM 2024) ซึ่งเป็นงานประชุมนานาชาติประจำ 4 ปีที่ใหญ่ที่สุดในสาขาระบบวิสัญญีวิทยาและเวชศาสตร์ความเจ็บปวด งานประชุม WCAM 2024 จะจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 15-18 เมษายน 2567 โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 7,000 คนจากมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก งานประชุมจะครอบคลุมประเด็นต่างๆ อย่างครอบคลุมในสาขาระบบวิสัญญีวิทยาและเวชศาสตร์ความเจ็บปวด รวมถึงแนวโน้มล่าสุดเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ และนวัตกรรมทางการรักษา นอกจากการประชุมทางวิชาการแล้ว งาน WCAM 2024 ยังมีกิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรมมากมาย เพื่อให้ผู้ เข้าร่วมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างเครือข่ายกับเพื่อนร่วมงานจากทั่วโลก การประชุม WCAM 2024 เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับศูนย์การแพทย์รามาธิบดีในการแสดงความเป็นเลิศและความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบวิสัญญีวิทยาและเวชศาสตร์ความเจ็บปวดทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ศูนย์การแพทย์รามาธิบดีขอเชิญชวนผู้เชี่ยวชาญด้านระบบวิสัญญีวิทยา เวชศาสตร์ความเจ็บปวด และสาขาที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในงาน WCAM 2024 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของงานประชุมนานาชาติที่น่าตื่นเต้นนี้

หัวนมบอด คืออะไร? ปัญหาของสาว ๆ และคุณแม่ให้นมลูก แก้ไขได้

หัวนมบอดคืออะไร หัวนมบอดเป็นภาวะที่หัวนมไม่ได้ยื่นออกมาจากเต้านมเหมือนหัวนมปกติ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิด หรืออาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง ในช่วงเริ่มตั้งครรภ์หรือหลังคลอด หัวนมบอดมีหลากหลายระดับ โดยอาจมีเพียงหัวนมข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ สาเหตุของหัวนมบอด สาเหตุของหัวนมบอด ได้แก่ ความผิดปกติของเนื้อเยื่อเต้านม ความผิดปกติของท่อนน้ำนม ฮอร์โมนไม่สมดุล ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด ผลกระทบของหัวนมบอด หัวนมบอดสามารถส่งผลกระทบต่อผู้หญิงได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองหรือเกิดความเจ็บปวดขณะให้นมลูก นอกจากนี้ยังอาจทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเรื่องยากเพราะลูกอาจไม่สามารถดูดนมได้ การแก้ไขหัวนมบอด มีหลายวิธีในการแก้ไขหัวนมบอด ได้แก่ การออกกำลังหัวนม สามารถช่วยยืดท่อระบายน้ำนมและกระตุ้นให้หัวนมปูดออกมาได้ โดยทำโดยการดึงหัวนมเบาๆ เป็นเวลา 5-10 นาทีในแต่ละวัน การใช้เครื่องปั๊มนม การใช้เครื่องปั๊มนมสามารถช่วยสร้างแรงดันลบและกระตุ้นให้หัวนมปูดออกมาได้ แนะนำให้ใช้เครื่องปั๊มนมทุกวันเป็นเวลา 20-30 นาที การผ่าตัด หากวิธีอื่นไม่ได้ผลอาจต้องใช้วิธีผ่าตัดเพื่อเปิดท่อน้ำนมและปล่อยให้หัวนมปูดออกมาได้ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีหัวนมบอดรุนแรง

แอนโทเนีย โพซิ่ว แชร์เคล็ดลับหุ่นสับฉบับสาวยูนิเวิร์ส

แอนโทเนีย โพซิ่ว แชร์เคล็ดลับหุ่นสับฉบับสาวยูนิเวิร์ส แอนโทเนีย โพซิ่ว นางงามสาวสวย ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ผู้ครองตำแหน่ง Miss Universe 2024 ได้ออกมาแชร์เคล็ดลับการดูแลรูปร่างของตัวเองให้ดูฟิตแอนด์เฟิร์มแบบสาวงามจักรวาล ฉบับที่สาวๆ มหาวิทยาลัยสามารถนำไปปรับใช้ได้ การออกกำลังกายแบบหนักหน่วง แอนโทเนียเน้นการออกกำลังกายแบบ HIIT (High-Intensity Interval Training) เป็นหลัก โดยจะสลับระหว่างการออกกำลังกายแบบหนักเป็นช่วงเวลาสั้นๆ กับการออกกำลังกายแบบเบาเป็นช่วงเวลาพัก โดยการออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น โภชนาการที่ครบถ้วน ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแล้ว แอนโทเนียยังให้ความสำคัญกับโภชนาการที่ครบถ้วน โดยจะเน้นการรับประทานผลไม้ ผัก ธัญพืช และโปรตีนแบบไม่แปรรูป และงดอาหารแปรรูป น้ำตาล และไขมันทรานส์ การนอนหลับที่เพียงพอ การนอนหลับอย่างเพียงพอนั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกายและการกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน แอนโทเนียจึงพยายามนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน การดื่มน้ำเยอะๆ การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอตลอดวันช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ และช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้น้ำหนักคงที่ การมีวินัยและความสม่ำเสมอ กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการดูแลรูปร่างคือการมีวินัยและความสม่ำเสมอในการออกกำลังกายและการรับประทานอาหาร แอนโทเนียแนะนำให้สาวๆ มหาวิทยาลัยหาเวลาออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นหลัก

กินแตงโมอ้วนไหม อยากลดน้ำหนัก กินตอนไหนดี มีประโยชน์อะไรบ้าง

กินแตงโมอ้วนไหม อยากลดน้ำหนัก ควรกินตอนไหน มีประโยชน์อะไรบ้าง กินแตงโมอ้วนไหม ไม่จริง แตงโมมีแคลอรีต่ำมาก โดยมีเพียงประมาณ 30 แคลอรีต่อหนึ่งถ้วย แม้ว่าจะมีน้ำตาลตามธรรมชาติอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณน้ำหนักเพิ่ม เนื่องจากส่วนใหญ่ของแตงโมประกอบด้วยน้ำ อยากลดน้ำหนัก กินแตงโมได้ไหม ได้ แต่ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะแม้ว่าจะมีแคลอรีต่ำ แต่ก็ยังมีน้ำตาลอยู่ ดังนั้น หากคุณกินในปริมาณมาก อาจทำให้คุณได้รับน้ำตาลมากเกินไปได้ กินแตงโมตอนไหนดี ทานได้ทุกเวลา แต่ถ้าอยากลดน้ำหนัก อาจเลือกทานก่อนหรือหลังอาหาร เพื่อช่วยให้อิ่มและลดปริมาณอาหารที่รับประทาน ประโยชน์ของแตงโม ช่วยให้ชุ่มชื้น เนื่องจากมีน้ำสูง เป็นแหล่งของวิตามิน A, C และโพแทสเซียม มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย มี citrulline ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดความดันโลหิต

ผู้หญิงเล่นกล้าม เล่นเวท ช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนักเร็วขึ้น

ผู้หญิงเล่นกล้าม เล่นเวท ช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนักเร็วขึ้น ผู้หญฺิหลายคนมีความเข้าใจผิดว่าการออกกำลังกายโดยการเล่นกล้ามหรือเล่นเวทจะทำให้รูปร่างล่ำบึกเหมือนผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงหลายคนลังเลที่จะออกกำลังกายแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วการเล่นกล้ามหรือเล่นเวทนั้นมีประโยชน์มากมายต่อผู้หญิง รวมถึงช่วยลดไขมันและลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นด้วย กลไกการช่วยลดไขมันและลดน้ำหนัก การเล่นกล้ามหรือเล่นเวทจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญพลังงานของร่างกายทั้งในขณะออกกำลังกายและหลังออกกำลังกาย ร่างกายจะต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อใหม่ ซึ่งจะช่วยเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น นอกจากนี้ การมีมวลกล้ามเนื้อที่มากขึ้นยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความอยากอาหารและทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น จึงช่วยลดการกินอาหารเกินความจำเป็นได้ ประโยชน์อื่นๆ ของการเล่นกล้ามและเล่นเวทสำหรับผู้หญิง นอกจากการช่วยลดไขมันและลดน้ำหนักแล้ว การเล่นกล้ามหรือเล่นเวทยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายสำหรับผู้หญิง เช่น ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ช่วยป้องกันการบาดเจ็บ ช่วยปรับปรุงท่าทางการยืนและเดิน ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเอง สรุป การเล่นกล้ามหรือเล่นเวทเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้หญิงในการลดไขมันและลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น โดยการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ จะช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญพลังงานและช่วยควบคุมความอยากอาหารได้ นอกจากนี้ การเล่นกล้ามหรือเล่นเวทยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายต่อผู้หญิงด้วย จึงเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้หญิงทุกคน

วิธีทำให้นมใหญ่ แบบธรรมชาติ เสริมความมั่นใจ ไม่ต้องเจ็บตัว

วิธีทำให้นมใหญ่ แบบธรรมชาติ การมีหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นแบบธรรมชาติเป็นความปรารถนาของผู้หญิงหลายคน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งวิธีการที่เจ็บปวดอย่างการเสริมหน้าอกเสมอไป ต่อไปนี้คือวิธีการทำให้นมใหญ่แบบธรรมชาติที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ อาหารที่ช่วยเพิ่มขนาดหน้าอก อาหารบางชนิดประกอบด้วยสารอาหารที่ช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเกี่ยวข้องกับขนาดของหน้าอก ได้แก่ ผักตระกูลกะหล่ำ: บรอกโคลี กะหล่ำดอก ธัญพืชไม่ขัดสี: ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ถั่วเหลือง: เต้าหู้ นมถั่วเหลือง เมล็ดแฟลกซ์ อาหารที่มีไขมันดี เช่น อะโวคาโด ถั่ว น้ำมันมะกอก การออกกำลังกายเฉพาะส่วน การออกกำลังกายที่เน้นบริเวณหน้าอกสามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อใต้หน้าอก ทำให้หน้าอกดูยกกระชับและใหญ่ขึ้นได้ ได้แก่ Bench press Push-up Dumbbell fly เทคนิคการนวด การนวดบริเวณหน้าอกด้วยน้ำมันหอมระเหยบางชนิด เช่น น้ำมันกุหลาบ หรือน้ำมันเจอราเนียม อาจช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน ยกทรงที่เหมาะสม ยกทรงที่มีขนาดและแบบที่เหมาะสมสามารถช่วยทำให้หน้าอกดูใหญ่ขึ้นได้ ควรเลือกยกทรงที่กระชับพอดีแต่ไม่รัดจนเกินไป และมีเต้าทรงที่มีฟองน้ำเสริมหรือตัวดันเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม วิธีปฏิบัติอื่นๆ การนอนหลับเพียงพอ: การนอนหลับเพียงพอช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนา การหลีกเลี่ยงสารพิษ: สารพิษจากบุหรี่ แอลกอฮอล์ และอาหารแปรรูปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของหน้าอก การจัดการความเครียด: ความเครียดสามารถขัดขวางการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงควรหาวิธีจัดการความเครียด เช่น โยคะ หรือการทำสมาธิ […]

อายุเท่าไรที่สามารถดูดไขมันได้ ไขข้อข้องใจไปกับทีมแพทย์จากรัตตินันท์

อายุเท่าไรที่สามารถดูดไขมันได้ ไขข้อข้องใจไปกับทีมแพทย์จากรัตตินันท์ การดูดไขมันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน แต่หลายๆ คนก็ยังมีข้อสงสัยว่าอายุเท่าไรจึงจะเหมาะสมกับการดูดไขมัน ทีมแพทย์จากรัตตินันท์ขอไขข้อข้องใจดังนี้ โดยทั่วไปแล้ว บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ถือว่ามีอายุที่เหมาะสมในการเข้ารับการดูดไขมันได้ เนื่องจากระบบร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่และมีเสถียรภาพ แต่สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีอาจจะต้องมีการพิจารณาเป็นรายบุคคล เพราะอยู่ในช่วงที่ร่างกายยังเจริญเติบโต การดูดไขมันอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับการดูดไขมัน แต่แพทย์ก็จะพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น สุขภาพร่างกายโดยรวม น้ำหนักส่วนสูง ความยืดหยุ่นของผิวหนัง ปริมาณไขมันส่วนเกิน ความคาดหวังของผู้เข้ารับการรักษา ดังนั้น ผู้ที่สนใจดูดไขมันจึงไม่ควรยึดติดกับอายุเพียงอย่างเดียว แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและแนวทางการดูแลที่เหมาะสมให้กับแต่ละบุคคล

ดูดไขมันต้นขาร่วมกับการตัดหนัง (liposuction & Thigh Lift) เหมาะกับใคร

ดูดไขมันต้นขาร่วมกับการตัดหนังเหมาะกับใคร การดูดไขมันต้นขาร่วมกับการตัดหนัง (Liposuction & Thigh Lift) เป็นการผ่าตัดตกแต่งที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาต้นขามีไขมันส่วนเกินและผิวหนังหย่อนคล้อย ผู้ที่เหมาะสมกับการผ่าตัดนี้ ได้แก่ ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมบริเวณต้นขา ไม่สามารถลดไขมันด้วยวิธีอื่น เช่น การออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหาร ผู้ที่มีผิวหนังบริเวณต้นขาหย่อนคล้อยหลังจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วหรือการตั้งครรภ์ ผู้ที่ต้องการปรับปรุงรูปร่างและความกระชับของต้นขา ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่สูบบุหรี่ ผู้ที่มีความคาดหวังที่สมจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการผ่าตัด ผู้ที่ไม่เหมาะสำหรับการผ่าตัดนี้ ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือโรคเลือดออก ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปหรือเป็นโรคอ้วน

ซิกแพคผู้หญิง สร้างได้ง่าย ๆ ด้วย 8 วิธี

ซิกแพคหญิง สร้างง่ายด้วย 8 วิธี ซิกแพคไม่ได้มีแค่เฉพาะผู้ชายเท่านั้น แต่ผู้หญิงก็สามารถมีซิกแพคได้เช่นกัน ด้วยการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ ต่อไปนี้คือ 8 วิธีสร้างซิกแพคสำหรับผู้หญิงที่ทำได้ง่ายๆ ออกกำลังกายคาร์ดิโอ ออกกำลังกายคาร์ดิโอเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่ปกคลุมกล้ามเนื้อท้องให้หมดไป กิจกรรมคาร์ดิโอที่แนะนำ ได้แก่ การวิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และกระโดดเชือก ฝึกท่าท้อง การฝึกท่าท้องช่วยเสริมสร้างและทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงมากขึ้น ท่าฝึกท้องที่ดี ได้แก่ ท่าแพลงก์ ท่าครันช์ และท่าซิทอัป ออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวที่แข็งแรงจะช่วยให้มีท่าทางที่ถูกต้องและปกป้องกระดูกสันหลัง ท่าออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ได้แก่ ท่าเบิร์ดดอก ท่าไฮนี-นี และท่าโรลอัป ชกมวย การชกมวยช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ถึง 500-1000 แคลอรี่ต่อชั่วโมง รวมถึงช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องและแกนกลางลำตัว ว่ายน้ำ การว่ายน้ำเป็นกิจกรรมที่มีแรงกระแทต่ำซึ่งช่วยให้เผาผลาญไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ โยคะ โยคะท่าต่างๆ เช่น ท่าแพลงก์ ท่าเรือ และท่าดึงหน้าเข่าช่วยสร้างเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ การรับประทานอาหารที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลดไขมันในร่างกายและสร้างกล้ามเนื้อ เลือกทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสี พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้นอนหลับ 7-9 […]