7 วิตามินลดสิวฮอร์โมน สิวฮอร์โมนเป็นสิวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่นและวัยที่มีประจำเดือน วิตามินบางชนิดสามารถช่วยลดการอักเสบและการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสิวฮอร์โมนได้ วิตามิน A วิตามิน A มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการผลิตเซลล์ผิวหนังและน้ำมัน วิตามินนี้ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งช่วยให้ผิวแข็งแรงและเรียบเนียน วิตามิน B3 (ไนอาซิน) วิตามิน B3 มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่ช่วยลดรอยแดงและอาการบวมของสิว นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง และป้องกันการเกิดสิวอักเสบ วิตามิน B5 (กรดแพนโทธีนิก) วิตามิน B5 ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวและซ่อมแซมผิวที่เสียหายจากสิว วิตามินนี้ยังช่วยลดการอักเสบและการระคายเคือง วิตามิน C วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ วิตามินนี้ยังช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวและทำให้ผิวกระจ่างใส วิตามิน E วิตามิน E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายและการอักเสบ นอกจากนี้ยังช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและลดการเกิดรอยแผลเป็น วิตามิน D วิตามิน D มีบทบาทในการควบคุมการอักเสบและการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง ซึ่งช่วยลดการอักเสบและการเกิดสิว วิตามินสังกะสี สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย วิตามินนี้ช่วยลดการอักเสบของสิวและช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่
Category Archives: Blog
ท้องแตกลาย คืออะไร ท้องแตกลาย หรือ Striae gravidarum เป็นรอยเส้นหรือรอยแยกบนผิวหนังที่เกิดขึ้นได้ในช่วงตั้งครรภ์หรือหลังคลอด ซึ่งเกิดจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของผิวหนังในบริเวณหน้าท้อง หน้าอก ต้นขา และสะโพก ทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันและอีลาสตินใต้ผิวหนังฉีกขาด โดยรอยแตกลายจะปรากฏเป็นเส้นตรงหรือหยักสีแดงหรือม่วงในระยะแรก และค่อยๆ จางลงเป็นสีขาวเงินหรือสีเนื้อเมื่อเวลาผ่านไป อาการและสาเหตุการเกิดท้องแตกลาย อาการ ปรากฏเป็นเส้นหรือรอยแยกบนผิวหนังบริเวณหน้าท้อง หน้าอก ต้นขา และสะโพก มีสีแดงหรือม่วงในระยะแรก และค่อยๆ จางลงเป็นสีขาวเงินหรือสีเนื้อตามลำดับ อาจมีอาการคันร่วมด้วยในบางราย สาเหตุ สาเหตุของการเกิดท้องแตกลายมาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของผิวหนังในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันและอีลาสตินใต้ผิวหนังไม่สามารถยืดหยุ่นตามได้ทัน จึงเกิดการฉีกขาด ดังนั้น ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดท้องแตกลายได้แก่ การตั้งครรภ์: การขยายตัวของมดลูกและทารกในครรภ์ทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าท้องต้องขยายตัวอย่างรวดเร็ว การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว: การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วทั้งในช่วงตั้งครรภ์และนอกช่วงตั้งครรภ์ทำให้ผิวหนังขยายตัวอย่างรวดเร็ว พันธุกรรม: ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นท้องแตกลาย มีความเสี่ยงที่จะเกิดท้องแตกลายเพิ่มขึ้น การใช้สเตียรอยด์: การใช้ครีมหรือยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เป็นเวลานานอาจทำให้ผิวหนังบางลงและอ่อนแอลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดท้องแตกลาย ความยืดหยุ่นของผิว: ผิวที่อ่อนโยนและขาดความยืดหยุ่นก็มีโอกาสเกิดท้องแตกลายได้ง่ายกว่า วิธีรักษา ปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่สามารถรักษาท้องแตกลายให้หายขาดได้ แต่มีวิธีรักษาที่ช่วยลดเลือนรอยแตกลายให้จางลงได้ ซึ่งได้แก่ ไฮโดรคอร์ติโซนเฉพาะที่: ยานี้สามารถช่วยลดอาการอักเสบและคัน แต่ควรใช้เฉพาะในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะอาจทำให้ผิวบางลงได้ เรตินอยด์เฉพาะที่: ยานี้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง แต่ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพราะอาจทำให้ผิวไวต่อแดด […]
10 วิธีลดพุงหลังคลอด เพื่อหุ่นสวยดังเดิมอีกครั้ง หลังจากคลอดลูกแล้ว คุณแม่หลายๆ ท่านอาจพบกับปัญหาหน้าท้องย้วยและหย่อนคล้อย เนื่องจากมดลูกที่ขยายตัวจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรง จึงเป็นเรื่องยากที่จะกลับมาฟิตแอนด์เฟิร์มได้อีกครั้ง แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรามี 10 วิธีลดพุงหลังคลอดมาฝาก ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่กลับมามีหน้าท้องที่แบนราบได้อย่างมั่นใจ ให้เวลาพักฟื้น หลังจากคลอดบุตร หากไม่ได้ผ่าคลอด อาจเริ่มออกกำลังกายได้เลย แต่หากผ่าคลอด รอประมาณ 6-8 สัปดาห์ แล้วค่อยเริ่มออกกำลังกาย เพราะแผลผ่าตัดต้องใช้เวลาในการสมาน เริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรหักโหมออกกำลังกายจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ควรเริ่มต้นจากการออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และค่อยๆ เพิ่มความหนักของการออกกำลังกายขึ้นเรื่อยๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป โฟกัสที่การออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าท้อง การออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าท้องจะช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและลดพุง ควรเริ่มจากการออกกำลังกายแบบง่ายๆ เช่น แพลงก์ ครันช์ เล็กน้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาและความยากในการออกกำลังกายขึ้นเรื่อยๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพดีและลดพุงได้ ควรเน้นรับประทานอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน และไฟเบอร์สูง ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกอิ่มนานและลดความอยากอาหาร ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอจะช่วยให้กระบวนการเผาผลาญอาหารทำงานได้ดีขึ้นและลดความอยากอาหารได้ ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน นอนหลับให้เพียงพอ […]
การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันหน้า หลังจากการฉีดไขมันหน้า การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ไขมันติดได้นานและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการฉีดไขมันหน้า: หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าแรงๆ ในช่วง 2-3 วันแรกหลังการฉีดไขมันหน้า ควรหลีกเลี่ยงการกด นวด หรือสัมผัสหน้าแรงๆ เพราะอาจทำให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ได้ ประคบเย็น การประคบเย็นบนใบหน้าเป็นเวลา 15-20 นาทีทุกๆ ชั่วโมงในช่วง 2-3 วันแรกหลังการฉีดไขมันหน้า จะช่วยลดอาการบวมและช้ำได้ นอนหัวสูง การนอนหัวสูงในช่วง 2-3 วันแรกหลังการฉีดไขมันหน้า จะช่วยลดอาการบวมได้ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และยาบางชนิด การดื่มแอลกอฮอล์ และการรับประทานยาบางชนิด เช่น แอสไพริน หรือไอบูโปรเฟน อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเลือดออกและช้ำได้ หลีกเลี่ยงแสงแดด แสงแดดอาจทำให้เกิดการอักเสบและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังการฉีดไขมันหน้า ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด แพทย์จะให้คำแนะนำเฉพาะในการดูแลตัวเองหลังการฉีดไขมันหน้า โดยควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ไขมันดี เลือกกินให้ถูกวิธี สุขภาพดี ไม่มีอ้วน ไขมันเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการ น้ำมันบางชนิดมีไขมันชนิดดี ซึ่งช่วยให้สุขภาพดีและลดน้ำหนักได้ ไขมันที่ดี ได้แก่ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน และกรดไขมันโอเมก้า 3 ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดียวนั้นอยู่ในการรับประทานอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีผลบวกต่อสุขภาพหัวใจ ไขมันชนิดนี้พบใน: อะโวคาโด น้ำมันมะกอก ถั่วชนิดต่างๆ เมล็ดพืช ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ไขมันชนิดนี้มักอยู่ในของเหลวที่อุณหภูมิห้อง ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนพบใน: ถั่วเหลือง น้ำมันถั่วเหลือง คาโนล่า ทานตะวัน กรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่อหัวใจและสมอง พบใน: ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล เมล็ดแฟลกซ์ วอลนัท เลือกไขมันดีอย่างไร? เลือกอาหารธรรมชาติ: อาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปมักมีไขมันดี เช่น อะโวคาโด ถั่ว ผลไม้ เลือกใช้เฉพาะน้ำมันที่จำเป็น: ใช้ในปริมาณน้อยสำหรับการปรุงอาหาร เลือกน้ำมันมะกอก น้ำมันอะโวคาโด หรือเนยจืด จำกัดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว: พบในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เนื้อสัตว์แปรรูป และผลิตภัณฑ์นมไขมันสูง […]
Atkins Diet คืออะไร? Atkins Diet คือแผนการรับประทานอาหารแบบ Low-carb ที่มีเป้าหมายในการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยเน้นไปที่การจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตในขณะที่เพิ่มปริมาณไขมันและโปรตีนให้มากขึ้น Atkins Diet ได้รับการตั้งชื่อตาม Dr. Robert Atkins ซึ่งเป็นแพทย์และนักโภชนาการชาวอเมริกัน ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการลดน้ำหนักโดยใช้หลักการการรับประทานอาหารแบบ Low-carb Atkins Diet ลดอย่างไร? Atkins Diet ใช้หลักการที่ว่าการรับประทานอาหารที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำจะทำให้ร่างกายผลิตสารที่เรียกว่าคีโตน ซึ่งจะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซีส ภาวะคีโตซีสคือภาวะที่ร่างกายเผาผลาญไขมันแทนคาร์โบไฮเดรตเพื่อใช้เป็นพลังงาน การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้เกิดการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เนื่องจากร่างกายเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ ขั้นตอนในการปฏิบัติ Atkins Diet Atkins Diet แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 (Induction): กินคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่า 20 กรัมต่อวัน เน้นรับประทานโปรตีนและไขมันให้มากขึ้น ขั้นตอนที่ 2 (Ongoing Weight Loss): ค่อยๆ เพิ่มคาร์โบไฮเดรตทีละน้อยจนน้ำหนักเริ่มคงที่ ขั้นตอนที่ 3 (Pre-Maintenance): เพิ่มคาร์โบไฮเดรตมากขึ้นเพื่อรักษาน้ำหนักให้คงที่ […]
ร่องแก้ม ปัญหาบนใบหน้า สาเหตุทำให้แก่ก่อนวัย ร่องแก้มคือรอยย่นที่เกิดบริเวณมุมปากและลากยาวลงไปทางด้านล่างของใบหน้า เกิดจากการแสดงสีหน้า การสูบบุหรี่ และการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนังตามอายุที่มากขึ้น เมื่อเริ่มมีอายุผิวจะเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นและเริ่มหย่อนคล้อย ส่งผลให้ร่องแก้มเริ่มปรากฏชัดขึ้นได้ สาเหตุที่ทำให้เกิดร่องแก้ม การแสดงสีหน้า: การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อซ้ำๆ เช่น การยิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้ว สามารถทำให้เกิดรอยพับบนผิวหนัง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปรอยพับเหล่านี้จะกลายเป็นริ้วรอยถาวรได้ การสูบบุหรี่: สารเคมีในบุหรี่จะทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเหี่ยวย่นได้ง่าย การสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง: เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะเริ่มสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งจะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและเกิดร่องแก้มได้ เนื่องจากผิวหนังไม่มีการรองรับจากไขมันด้านล่างอีกต่อไป วิธีแก้ไขร่องแก้ม มีหลายวิธีที่สามารถช่วยแก้ไขร่องแก้มได้ ได้แก่ การใช้ฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับและเติมเต็มร่องแก้ม การทำเลเซอร์: เลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวเรียบเนียนและลดเลือนริ้วรอยได้ การทำ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound): เป็นเทคนิคการรักษาที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงเพื่อยกกระชับผิวและลดริ้วรอย การผ่าตัดยกกระชับใบหน้า: เป็นวิธีการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ถาวร โดยการผ่าตัดจะทำการยกและกระชับผิวบริเวณแก้ม ทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้น
คลินิกกำจัดต่อมเหงื่อ Miradry ที่ไหนดี อัปเดต ปี 2567 การกำจัดต่อมเหงื่อด้วยเทคโนโลยี Miradry เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถช่วยลดปัญหากลิ่นตัวและเหงื่อออกมากเกินไปได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้เข้ารับบริการได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีคลินิกหลายแห่งในประเทศไทยที่ให้บริการกำจัดต่อมเหงื่อด้วยเทคโนโลยี Miradry แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการใช้เทคโนโลยีนี้โดยเฉพาะ คลินิกกำจัดต่อมเหงื่อ Miradry ที่แนะนำ ได้แก่: สถาบันโรคผิวหนัง: เป็นคลินิกเฉพาะทางด้านผิวหนังที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการกำจัดต่อมเหงื่อด้วยเทคโนโลยี Miradry มานานหลายปี จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ โรงพยาบาลผิวหนังอโศก: เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านผิวหนังที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครบทุกด้าน รวมถึงการกำจัดต่อมเหงื่อด้วยเทคโนโลยี Miradry ซึ่งมีการบริการที่ได้มาตรฐานและมีอุปกรณ์ครบครัน คลินิกผิวหนังมาสเตอร์พีซ: เป็นคลินิกผิวหนังที่มีชื่อเสียงในด้านการรักษาปัญหาผิวหนังต่างๆ รวมถึงการกำจัดต่อมเหงื่อด้วยเทคโนโลยี Miradry โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ The Skin Clinic: เป็นคลินิกผิวหนังที่ให้บริการหลากหลายด้าน การกำจัดต่อมเหงื่อด้วยเทคโนโลยี Miradry ถือเป็นอีกหนึ่งบริการยอดนิยมของคลินิกแห่งนี้ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและบริการอย่างใกล้ชิด คลินิกผิวหนังโพรเฟสซิโอเนล: เป็นคลินิกผิวหนังที่มีแพทย์ผิวหนังมากประสบการณ์ให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการกำจัดต่อมเหงื่อด้วยเทคโนโลยี Miradry ที่ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกกำจัดต่อมเหงื่อ Miradry ควรสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ของแพทย์ ค่าใช้จ่ายของการรักษา และข้อควรปฏิบัติต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ผิวย้วยหลังดูดไขมัน จากปัญหาใหญ่แก้ไขได้ ปัญหาผิวย้วยหลังดูดไขมันนั้นเป็นปัญหาที่หลายๆ คนกังวลใจหลังจากที่ตัดสินใจดูดไขมันไปแล้ว เพราะจากการดูดไขมันออกทำให้เกิดช่องว่างทำให้ผิวบริเวณนั้นหย่อนคล้อยลง ทำให้หาดูไม่สวยงาม โดยวิธีการที่จะช่วยให้ผิวกลับมากระชับและเรียบเนียนขึ้นอีกครั้งนั้นคือการใช้เครื่องมือที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคลอลาเจนและอิลาสตินของร่างกายเพื่อให้ผิวยืดหยุ่นมากขึ้น โดยหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถใช้ได้ดีในเรื่องนี้ก็คือ Morpheus8 Morpheus8 เป็นเครื่องมือที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุ (RF) ในการรักษา โดยจะปล่อยพลังงานลงไปในชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อนใต้ชั้นผิวหนังและกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวบริเวณที่ห้อยย้วยจะค่อยๆ กระชับขึ้น เรียบเนียน และยืดหยุ่นมากขึ้น ขั้นตอนการรักษาด้วย Morpheus8 แพทย์จะทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะรักษาและทายาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ แพทย์จะนำเครื่อง Morpheus8 มายิงพลังงานลงบนผิวหนัง โดยจะยิงเป็นจุดเล็กๆ หลายๆ จุดทั่วบริเวณที่ต้องการรักษา หลังจากทำการรักษาเสร็จแล้ว อาจมีอาการบวมแดงหรืออาจมีสะเก็ดแผลเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ผลลัพธ์หลังการรักษา ผลลัพธ์หลังการรักษาด้วย Morpheus8 จะเริ่มเห็นได้หลังจาก 2-3 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 3-6 เดือน โดยผิวบริเวณที่หย่อนคล้อยจะค่อยๆ กระชับขึ้น เรียบเนียนขึ้น และยืดหยุ่นมากขึ้น ข้อควรระวังหลังการรักษา หลังทำการรักษาควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดๆ หรือทาครีมกันแดดเมื่อต้องออกไปข้างนอกเป็นเวลานานๆ งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจมีอาการบวมแดงหรืออาจมีสะเก็ดแผลเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน […]
อาการหลังดูดไขมันเสร็จทันที หลังการดูดไขมันเสร็จใหม่ๆ ผู้เข้ารับบริการจะมีอาการดังต่อไปนี้ บวม มีการบวมบริเวณรอบบริเวณที่ดูดไขมัน เนื่องจากมีของเหลวที่ตกค้างอยู่ โดยอาการจะค่อยๆ ลดลงและหายไปเองภายในเวลา 1-2 สัปดาห์ ช้ำ อาจมีอาการช้ำหรือเขียวบริเวณที่ดูดไขมัน โดยมักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีการสะสมไขมันปริมาณมาก อาการช้ำจะค่อยๆ จางลงและหายไปเองในเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ปวด มีอาการปวด โดยมักเป็นอาการปวดตื้อๆ ที่เกิดจากรอยแผลผ่าตัดและการบวม โดยสามารถใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ คลื่นไส้ มีอาการคลื่นไส้เวียนหัว โดยเกิดจากฤทธิ์ยาชาที่ใช้ในการดูดไขมัน อาการนี้จะค่อยๆ หายไปเมื่อร่างกายขับยาชาออกจนหมด อ่อนเพลีย มีอาการอ่อนเพลีย โดยเกิดจากการเสียเลือดและพลังงานในการดูดไขมัน อาการนี้จะค่อยๆ ฟื้นตัวภายใน 1-2 วัน
ผ่าตัดแล้วกินอะไรไม่ได้บ้าง อาหารแสลงที่ห้ามกินเพื่อป้องกันแผลเป็น หลังจากผ่าตัดแล้ว เรามักจะได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลเป็น ซึ่งอาหารเหล่านี้เรียกว่า “อาหารแสลง” โดยอาหารแสลงที่ห้ามกินหลังผ่าตัด มีดังนี้ อาหารที่ทำให้เกิดการอักเสบ เช่น กะปิ กะทิ ของหมักของดอง ของทอด ของมัน ของหวานที่มีน้ำตาลสูง เหล้า บุหรี่ อาหารที่มีคีลอยด์ เช่น หน่อไม้ ไข่ขาว ไก่ เนื้อวัว อาหารทะเล อาหารรสเผ็ดจัด อาหารที่ทำให้แผลช้าหาย เช่น ผักที่มีสีเขียว เช่น กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ บรอกโคลี การปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องการรับประทานอาหารแสลงอย่างเคร่งครัด ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นได้ โดยเฉพาะแผลเป็นชนิดนูนหรือคีลอยด์ได้
Mega Exosome ตัวช่วยในการฟื้นฟูผิวหน้าและเส้นผมที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ เมกะเอกโซโซม (Mega Exosome) คือสุดยอดนวัตกรรมใหม่ในวงการดูแลผิวหน้าและเส้นผมที่โด่งดังมากในปัจจุบัน เอกโซโซม (Exosome) คือถุงขนาดเล็กที่ปล่อยออกมาจากเซลล์เพื่อขนส่งสารต่างๆ ระหว่างเซลล์ด้วยกัน เมกะเอกโซโซมนั้นมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าเอกโซโซมธรรมดา โดยมีขนาดใหญ่กว่าและมีสารสำคัญที่เข้มข้นกว่ามาก จึงสามารถซึมซาบล้ำลึกเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประโยชน์ของเมกะเอกโซโซมต่อผิวหน้า ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย: เมกะเอกโซโซมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ช่วยให้ผิวเต่งตึงและเรียบเนียน ฟื้นฟูผิวที่เสียหาย: เมกะเอกโซโซมช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายจากมลภาวะ แสงแดด และความเครียด ลดการอักเสบ: เมกะเอกโซโซมมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการผิวแดง บวม และระคายเคือง ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ: เมกะเอกโซโซมช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของฝ้า กระ และจุดด่างดำ ประโยชน์ของเมกะเอกโซโซมต่อเส้นผม กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม: เมกะเอกโซโซมช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงหนังศีรษะ และส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากผม ลดการหลุดร่วงของเส้นผม: เมกะเอกโซโซมช่วยซ่อมแซมเซลล์รากผมที่อ่อนแอ และป้องกันการหลุดร่วง ทำให้เส้นผมแข็งแรงและเงางาม: เมกะเอกโซโซมช่วยบำรุงเส้นผมจากภายในสู่ภายนอก ทำให้เส้นผมแข็งแรง เงางาม และมีสุขภาพดี