รีวิว ดูดไขมัน Tripletite ดูแลจบครบสูตร ได้หุ่นเป๊ะแบบ 360 องศา การดูดไขมัน Tripletite คือเทคโนโลยีขั้นสูงที่รวม 3 โหมดการทำงานเข้าด้วยกัน ได้แก่ RFAL (Radio Frequency Assisted Lipolysis): ใช้คลื่นความถี่วิทยุละลายไขมันให้อ่อนตัว VAL (Vibration Assisted Lipolysis): ใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำสลายพังผืดและกระชับผิว PAL (Power Assisted Lipolysis): ใช้คลื่น Laser พลังงานสูงสลายไขมันให้เป็นของเหลว การทำงานร่วมกันของ 3 โหมดนี้ช่วยกำจัดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกระชับผิวในบริเวณที่ทำการดูดไขมัน จึงได้ผลลัพธ์เป็นหุ่นเป๊ะแบบ 360 องศาที่ดูเป็นธรรมชาติ หลังทำการดูดไขมัน Tripletite จะมีอาการบวมช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆ ยุบลงภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยระหว่างนี้จะต้องสวมชุดกระชับสัดส่วนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยลดอาการบวมและกระชับผิว ผลลัพธ์จากการดูดไขมัน Tripletite จะเริ่มเห็นได้ชัดเจนหลังจาก 1 เดือน และจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง […]
Category Archives: Blog
กลิ่นตัวแรง…แก้ยังไงดี กลิ่นตัวแรงเป็นปัญหาที่อาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับหลายๆ คน โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนหรือหลังออกกำลังกาย ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวเรารู้สึกอับอึดแล้ว ยังอาจสร้างความรำคาญใจให้กับผู้อื่นอีกด้วย หากคุณกำลังประสบปัญหากลิ่นตัวแรง ลองมาดูวิธีแก้ไขง่ายๆ ที่เราจะแนะนำในบทความนี้กันเลย สาเหตุของกลิ่นตัวแรง กลิ่นตัวเกิดจากการที่แบคทีเรียบนผิวหนังย่อยสลายเหงื่อ โดยเฉพาะในบริเวณที่อับชื้น เช่น รักแร้ ขาหนีบ และเท้า สารคัดหลั่งของแบคทีเรียเหล่านี้อุดมไปด้วยกรดไขมัน ซึ่งเมื่อรวมกับกลิ่นเหงื่อก็จะสร้างกลิ่นตัวที่แรงขึ้น ปัจจัยที่อาจทำให้เกิดกลิ่นตัวแรง ได้แก่ ฮอร์โมน: ฮอร์โมนเพศชายสามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเหงื่อได้มากขึ้น อาหาร: การรับประทานอาหารบางชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม หรืออาหารรสจัด อาจส่งผลให้กลิ่นตัวแรงขึ้น ความเครียด: ความเครียดสามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเหงื่อได้มากขึ้น การใช้ยาบางชนิด: ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ อาจทำให้เกิดกลิ่นตัวแรงขึ้น ภาวะทางการแพทย์: บางโรค เช่น เบาหวานหรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ก็อาจทำให้เกิดกลิ่นตัวแรงได้
Atkins Diet คืออะไร? Atkins Diet เป็นอาหารลดน้ำหนักยอดนิยมที่ให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ โดยพัฒนาขึ้นโดยนายแพทย์โรเบิร์ต แอตกินส์ ศัลยแพทย์หัวใจชาวอเมริกันในช่วงทศวรรษ 1970 แนวทางหลักของ Atkins Diet คือการลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้ง่าย เช่น น้ำตาล, ขนมปัง, พาสต้า และข้าว โดยเชื่อว่าการรับประทานอาหารเหล่านี้จะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งเสริมการสะสมไขมัน Atkins Diet แบ่งออกเป็น 4 ระยะ โดยแต่ละระยะจะมีข้อจำกัดด้านคาร์โบไฮเดรตที่แตกต่างกัน ลดน้ำหนักด้วย Atkins Diet อย่างปลอดภัย การปฏิบัติตาม Atkins Diet อย่างปลอดภัยจำเป็นต้องคำนึงถึงข้อควรระวังบางประการ จำกัดคาร์โบไฮเดรตอย่างเคร่งครัด: ในช่วงเริ่มต้นของ Atkins Diet ผู้ทำตามจะต้องจำกัดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตให้ต่ำมาก อาจต่ำถึง 20 กรัมต่อวัน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะคีโตซิส ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายเปลี่ยนไปใช้ไขมันเป็นพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรต แม้ว่าคีโตซิสอาจช่วยให้ลดน้ำหนักได้ แต่ก็สามารถนำไปสู่ผลข้างเคียง เช่น เหนื่อยล้า, ปวดศีรษะ และท้องผูกได้ เน้นโปรตีนและไขมัน: Atkins Diet […]
ท้องแตกลายคืออะไร ท้องแตกลายเป็นแผลเป็นที่เกิดจากการยืดตัวของผิวอย่างรวดเร็ว เช่น ในระหว่างตั้งครรภ์ วัยรุ่น หรือการเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้เส้นใยอีลาสตินในชั้นผิวหนังฉีกขาด ผิวจึงเกิดรอยแตกเป็นสีชมพู แดง ม่วง หรือขาวได้ อาการ ท้องแตกลายอาจมีลักษณะแตกต่างกันไป โดยทั่วไปอาจมีอาการ ดังนี้ แผลเป็นเป็นลายเส้นขนานตามแนวนอนแนวต้นขาและหน้าท้อง อาจมีสีชมพู แดง ม่วง หรือขาว อาจมีความคันหรือเจ็บเล็กน้อย มักเกิดในระหว่างไตรมาสที่สองหรือสามของการตั้งครรภ์ สาเหตุ ท้องแตกลายเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น การตั้งครรภ์: การตั้งครรภ์ทำให้ท้องขยายอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้ผิวไม่สามารถยืดตัวตามทันได้ การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในวัยรุ่น: ในช่วงวัยรุ่น กระดูกและกล้ามเนื้อจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้ผิวเกิดการยืดตัวอย่างฉับพลันและนำไปสู่ท้องแตกลาย การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว: การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจทำให้ผิวหนังยืดตัวอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้ โรคบางชนิด: บางโรค เช่น โรคคอร์ติโคสเตอรอยด์และโรค Cushing’s syndrome อาจทำให้ผิวหนังบางลงและเสี่ยงต่อการแตกลาย กรรมพันธุ์: บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดท้องแตกลายมากกว่าคนอื่น เนื่องจากกรรมพันธุ์ที่ทำให้ผิวบางลงหรือไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร การรักษา ท้องแตกลายไม่มีทางรักษาให้หายขาด แต่มีวิธีรักษาบางอย่างที่อาจช่วยลดลักษณะที่ปรากฏได้ เช่น ครีมทาแก้ท้องแตกลาย: ครีมเหล่านี้มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว เพิ่มความยืดหยุ่น และลดการอักเสบ เลเซอร์บำบัด: เลเซอร์สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง […]
กล้ามเนื้อกระตุก เกิดจากอะไร กล้ามเนื้อกระตุกเป็นอาการที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้ป่วยอาจรู้สึกเพียงอาการกระตุกเล็กน้อยหรืออาจเป็นการกระตุกที่รุนแรงจนทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ กล้ามเนื้อกระตุกเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น: ภาวะเครียดหรือวิตกกังวล: เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียดหรือวิตกกังวล อาจทำให้กล้ามเนื้อหดตัวโดยไม่ตั้งใจได้ การบริโภคคาเฟอีนและแอลกอฮอล์มากเกินไป: การบริโภคคาเฟอีนและแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจทำให้ระบบประสาทไม่ทำงานตามปกติและกระตุ้นให้กล้ามเนื้อกระตุกได้ การขาดสารอาหาร: กล้ามเนื้อกระตุกอาจเป็นอาการของการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น แมกนีเซียม แคลเซียม หรือโพแทสเซียม การออกกำลังกายหนักเกินไป: การออกกำลังกายที่หนักเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการตึงตัวและหดตัวโดยไม่ได้ตั้งใจ การบาดเจ็บทางกายภาพ: การบาดเจ็บทางกายภาพ เช่น การได้รับบาดเจ็บที่เส้นประสาท อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้อกระตุกได้ โรคบางชนิด: กล้ามเนื้อกระตุกอาจเป็นอาการของโรคระบบประสาทบางชนิด เช่น โรคพาร์กินสัน โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และโรคลมบ้าหมู วิธีรักษาและป้องกันกล้ามเนื้อกระตุก การรักษากล้ามเนื้อกระตุกจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริง วิธีรักษาอาจรวมถึง: การจัดการความเครียด: การจัดการความเครียดด้วยเทคนิคการผ่อนคลายต่างๆ เช่น โยคะ การทำสมาธิ หรือการหายใจเข้า-ออกลึกๆ อาจช่วยลดอาการกล้ามเนื้อกระตุกที่เกิดจากความเครียด การปรับเปลี่ยนอาหาร: หากกล้ามเนื้อกระตุกเกิดจากการขาดสารอาหาร ผู้ป่วยควรปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อเพิ่มปริมาณสารอาหารที่ร่างกายต้องการ การปรับเปลี่ยนกิจกรรม: หากกล้ามเนื้อกระตุกเกิดจากการออกกำลังกายหนักเกินไป ผู้ป่วยควรปรับเปลี่ยนกิจกรรมและหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่กระตุ้นให้เกิดอาการ การพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและลดโอกาสเกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุก การรักษาทางการแพทย์: หากกล้ามเนื้อกระตุกเป็นอาการของโรคบางชนิด ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาหรือวิธีอื่นๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
เสริมหน้าอก ศัลยกรรมเนินอกสวย ดูเป็นธรรมชาติ โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การเสริมหน้าอก ช่วยมอบเนินอกที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ และเข้ากับสัดส่วนของร่างกายแต่ละบุคคล ซึ่งการทำศัลยกรรมหน้าอก ถือเป็นการผ่าตัดเสริมสร้างความมั่นใจให้กับทั้งผู้ที่รู้สึกว่าหน้าอกของตนเองเล็ก หรือมีปัญหาเนื้อหน้าอกหย่อนคล้อยจากการตั้งครรภ์ การให้นมบุตร รวมถึงการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยมีวิธีการทำ ดังนี้ วิธีการเสริมหน้าอก การเสริมหน้าอกจะใช้วิธีการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีขั้นตอนโดยละเอียด ดังนี้ วางยาสลบเพื่อให้ผู้รับการผ่าตัดหลับสนิทและไม่รู้สึกเจ็บปวด แพทย์ทำการกรีดแผลบริเวณใต้ราวนมหรือรักแร้ เพื่อซ่อนรอยแผลเป็น สร้างโพรงใต้กล้ามเนื้อหน้าอก เพื่อเตรียมใส่ถุงซิลิโคน ใส่ถุงซิลิโคนเข้าไป โดยมีขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล จัดวางถุงซิลิโคนให้ได้ตำแหน่งที่กระชับเป็นธรรมชาติ เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย การดูแลหลังการเสริมหน้าอก หลังจากการเสริมหน้าอก ผู้รับการผ่าตัดจะต้องพักฟื้นและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยมีขั้นตอนการดูแลตนเองดังนี้ งดการยกของหนักอย่างน้อย 4 สัปดาห์ สวมใส่ยกทรงพิเศษเพื่อพยุงหน้าอก รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์ นอนตะแคงหรือหงาย หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ มาตรวจตามนัดหมายกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ การเสริมหน้าอก ถือเป็นการผ่าตัดที่ปลอดภัยและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้รับการผ่าตัดได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้บริการจากสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ผลลัพธ์การผ่าตัดออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ปลอดภัย และฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
วิธีให้ขาเรียวสวยภายใน 7 วัน ทำได้ง่าย ๆ และได้ผลจริง หากคุณต้องการมีขาที่เรียวสวยภายในเวลาอันรวดเร็ว เราขอแนะนำวิธีปฏิบัติดังนี้ รับรองได้เลยว่าได้ผลจริง 1. ออกกำลังกายแบบแอโรบิก การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินและกระชับกล้ามเนื้อบริเวณขา 2. เล่นโยคะ ท่าโยคะหลายท่าช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อขาและช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น 3. นวดบริเวณขา การนวดบริเวณขาช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและลดอาการบวมน้ำ 4. ประคบเย็น การประคบเย็นบริเวณขาช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ 5. ใส่ถุงน่องรัดรูป ถุงน่องรัดรูปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดการเกิดเส้นเลือดขอด 6. รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง อาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืชเต็มเมล็ด ช่วยให้อิ่มเร็วขึ้นและช่วยลดการกินจุบจิบ 7. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันช่วยขจัดสารพิษและลดอาการบวมน้ำ
ผู้หญิงเล่นเวทช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนักเร็วขึ้นได้อย่างไร การเล่นเวทช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก ร่างกายจึงต้องสลายไขมันและคาร์โบไฮเดรตมาใช้เป็นพลังงานในการสร้างกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้น ทั้งในระหว่างออกกำลังกายและหลังออกกำลังกาย การสร้างกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นช่วยเผาผลาญไขมันอย่างไร เมื่อกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น อัตราการเผาผลาญพื้นฐาน (BMR) ซึ่งเป็นอัตราการเผาผลาญพลังงานที่ร่างกายใช้ในแต่ละวันขณะพักผ่อน ก็จะเพิ่มสูงขึ้น เมื่อมีกล้ามเนื้อมากขึ้น ร่างกายก็จะต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อรักษาและซ่อมแซมกล้ามเนื้อเหล่านั้น จึงส่งผลให้เผาผลาญไขมันได้มากขึ้นในระยะยาว การเล่นเวทช่วยเพิ่มความไวต่อฮอร์โมนไขมัน การเล่นเวทช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้หญิง ซึ่งช่วยเพิ่มการสร้างกล้ามเนื้อและความไวต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการนำกลูโคสเข้าสู่เซลไขมัน เมื่อความไวต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น ร่างกายก็จะนำกลูโคสเข้าสู่เซลมากขึ้น และเก็บบันทึกไว้เป็นไขมันน้อยลง ช่วยลดการสะสมไขมันและลดน้ำหนักได้ การเล่นเวทช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอล คอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนความเครียดที่สามารถส่งเสริมการสะสมไขมัน การเล่นเวทช่วยลดระดับคอร์ติซอลในร่างกาย ซึ่งช่วยลดการสะสมไขมันและเพิ่มการเผาผลาญไขมัน การเล่นเวทช่วยควบคุมความอยากอาหาร การเล่นเวทช่วยเพิ่มระดับเลปติน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมความอยากอาหาร เมื่อระดับเลปตินเพิ่มขึ้น ความหิวก็จะลดลง นอกจากนี้ การเล่นเวทยังช่วยเพิ่มการผลิตสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งมีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดและสร้างความรู้สึกสบาย ทำให้ลดความอยากของหวานได้
ขาใหญ่กรรมพันธุ์ ลดยังไง อยากขาเรียวต้องรู้ ต้นตอของขาใหญ่ ผู้ที่มีต้นขาใหญ่ ก้นใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องน่าปวดหัวทั้งนั้น โดยเฉพาะในคุณสาวๆ อาจจะมองเห็นเป็นปัญหาหนักใจอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่อยากมีรูปร่างผอมเพรียวกันทั้งนั้น ซึ่งสาเหตุของต้นขาใหญ่หรือก้นใหญ่นั้น มีหลากหลายปัจจัย แต่โดยทั่วไปแล้ว หากไม่ใช่เกิดจากการมีไขมันส่วนเกินสะสม อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ก็เป็นได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโครงสร้างร่างกายใหญ่ มีขนาดกระดูกใหญ่และหนา มีกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อต้นขา ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของร่างกาย ซึ่งมักจะเพิ่มขนาดได้ง่ายกว่ากล้ามเนื้ออื่นๆ หากออกกำลังกายแบบไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้กล้ามเนื้อต้นขาใหญ่ได้
หลังแอ่น เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร หลังแอ่น เป็นอาการผิดปกติของแนวกระดูกสันหลัง โดยมีลักษณะหลังค่อมงอผิดรูป ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ พฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการนั่งตัวงอๆ อยู่เป็นเวลานาน การแบกของหนัก หรือการโน้มตัวไปข้างหน้าบ่อยๆ กรรมพันธุ์ ความผิดปกติของกระดูกและกล้ามเนื้อ ภาวะกระดูกสันหลังคดในผู้ใหญ่ หรือ Scheuermann Kyphosis โรคกระดูกพรุน โรคมะเร็งกระดูกสันหลัง วิธีรักษาหลังแอ่น การรักษาหลังแอ่นจะพิจารณาตามสาเหตุและความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้น โดยมีวิธีการรักษา ดังนี้ การใช้ยารักษา อาจใช้ยาแก้ปวดลดการอักเสบ หรือยาที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก การกายภาพบำบัด ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังให้มีความยืดหยุ่น ลดอาการปวดหลัง รวมถึงฝึกท่าทางที่ถูกต้อง การดึงหลัง (Traction) โดยใช้แรงดึงเพื่อลดความคดของกระดูกสันหลัง เหมาะสำหรับอาการหลังแอ่นไม่มาก การใส่เครื่องดามหลัง (Back Brace) เพื่อปรับแนวกระดูกสันหลังให้ถูกต้อง การผ่าตัด กรณีหลังแอ่นที่รุนแรงและรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัด เพื่อปรับแนวกระดูกสันหลังให้ตรง
ดูดไขมันใช้เวลากี่ชั่วโมง? การดูดไขมันเป็นขั้นตอนการผ่าตัดโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1-4 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เวลาที่ใช้สำหรับขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึง: ปริมาณไขมันที่ต้องการกำจัด บริเวณที่ได้รับการรักษา เทคนิคการดูดไขมันที่ใช้
วิธีบริหารตั้งแต่วิธียืนจนวิธีนั่งเพื่อลดน่อง ให้สวยได้ดั่งใจ น่องใหญ่นับเป็นปัญหาสำหรับสาวๆ ที่รักการสวมกระโปรงเป็นอย่างมาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการให้น่องเรียวกระชับได้ดังใจ แค่หมั่นบริหารกล้ามเนื้อน่องตามวิธีที่เราเตรียมมาให้ ก็สามารถนุ่งกระโปรงตัวโปรดได้อย่างมั่นใจ ลองไปดูกันเลยว่ามีวิธีไหนบ้าง วิธีลดน่องโต ขณะนั่ง **บริหารน่องด้วยวิธีนั่งยืดปลายเท้า”: ขณะที่นั่งบนเก้าอี้อยู่ ให้เหยียดขาข้างใดข้างหนึ่งไปด้านหน้า และยืดปลายเท้าขึ้น ทำค้างไว้ 5 วินาที แล้วสลับไปทำอีกข้าง ทำวนซ้ำๆ กัน 10 ครั้ง ก็จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อน่องได้ **บริหารน่องด้วยวิธีนั่งกดปลายเท้า”: นั่งบนเก้าอี้โดยวางฝ่าเท้าทั้งสองบนพื้น จากนั้นก็ออกแรงกดปลายเท้าขึ้นไปด้านบน ค้างไว้ 5 วินาที แล้วผ่อนคลาย ทำซ้ำๆ กันเช่นนี้ 10 ครั้ง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อน่อง **บริหารน่องด้วยวิธีนั่งยกขา”: นั่งเหยียดขาไปด้านหน้า แล้วค่อยๆ ยกขาข้างใดข้างหนึ่งขึ้นจากพื้น แล้วยกปลายเท้าวางบนพื้นค้างไว้ 5 วินาที แล้วสลับไปทำอีกข้าง ทำวนเช่นนี้สลับกันไปมาข้างละ 10 ครั้ง จะช่วยเพิ่มความกระชับให้ต้นขาและน่องได้เป็นอย่างดี วิธีลดน่องโต ขณะยืน **บริหารน่องด้วยวิธีท่ายืนยกปลายเท้า”: ยืนตัวตรงแล้วค่อยๆ ยกปลายเท้าวางบนพื้นไว้สักครู่ ค่อยๆ ผ่อนลงให้เป็นท่ายืนปกติ […]