อาหารคลีนมื้อเย็นเพื่อการลดความอ้วน: รับประทานอะไรได้บ้าง? อาหารคลีนเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยมุ่งเน้นไปที่อาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาหารคลีนมื้อเย็นมีส่วนสำคัญต่อการลดความอ้วน เนื่องจากช่วยให้คุณอิ่มท้องโดยไม่รู้สึกพองและทานมากเกินไป ต่อไปนี้คือแนวคิดอาหารคลีนมื้อเย็นที่คุณสามารถเลือกได้: ผัก: ผักมีแคลอรี่ต่ำและอุดมไปด้วยใยอาหาร ซึ่งทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น ลองผักย่าง ผักนึ่ง หรือสลัดผักสด โปรตีนไขมันต่ำ: โปรตีนช่วยสร้างความรู้สึกอิ่มและช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ คุณสามารถเลือกเนื้อไก่ ปลา ไข่ขาว หรือเต้าหู้ย่างได้ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังธัญพืช หรือมันเทศ จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มและมีพลังงาน คุณควรควบคุมขนาดส่วนของคาร์โบไฮเดรตเพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคแคลอรี่มากเกินไป ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ: ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น อะโวคาโด ถั่ว และเมล็ดต่างๆ สามารถเพิ่มรสชาติและความอิ่มให้กับอาหารคลีนมื้อเย็นของคุณได้ รวมถึงให้พลังงานและช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น เครื่องเทศและสมุนไพร: เครื่องเทศและสมุนไพรสามารถเพิ่มรสชาติให้กับอาหารคลีนมื้อเย็นของคุณได้โดยไม่ต้องเพิ่มแคลอรี่ ใช้สมุนไพร เช่น โหระพา โรสแมรี่ หรือออริกาโน และเครื่องเทศ เช่น พริกป่น หรือขิง ในการทำอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง น้ำตาล และโซเดียม ซึ่งอาจขัดขวางการลดน้ำหนักของคุณ เมื่อเตรียมอาหารคลีนมื้อเย็น ให้ใช้เทคนิคทำอาหาร เช่น การย่าง […]
Category Archives: Blog
ท่าบริหารลดต้นแขนฉบับเร่งด่วน มาดูกระชับต้นแขนด้วยท่าบริหารง่ายๆ เหล่านี้กันเลย เริ่มต้นด้วยท่า Triceps Dips: ยืนหันหลังให้เก้าอี้ วางมือทั้งสองข้างไว้ที่ขอบเก้าอี้ ยืดขาเหยียดตรง แล้วจึงค่อยๆ งอแขนลงมา แล้วกลับขึ้นมาท่าเดิม Push-Ups: วางมือทั้งสองลงบนพื้นให้กว้างกว่าหัวไหล่เล็กน้อย จากนั้นยืดร่างกายให้ตรง แล้วค่อยๆ งอแขนลงมา แล้วยืดแขนกลับขึ้นมาท่าเดิม Overhead Triceps Extensions: ยืนถือดัมเบลไว้ที่ด้านหลังศีรษะให้ห่างกันประมาณหัวไหล่ แล้วค่อยๆ ยกแขนขึ้นมาเหนือหัว แล้วกลับลงมาท่าเดิม Triceps Kickbacks: ยืนถือดัมเบลไว้ที่ข้างลำตัว งอเข่าเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ยกดัมเบลขึ้นมาด้านหลัง แล้วกลับลงมาท่าเดิม Bench Dips: นั่งลงบนเก้าอี้ แล้ววางมือทั้งสองข้างไว้ที่ม้านั่งด้านหลัง กางขายออก แล้วยืดขาเหยียดตรง จากนั้นค่อยๆ งอแขนลงมา แล้วกลับขึ้นมาท่าเดิม ท่าบริหารเหล่านี้จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหลัง ช่วยให้ต้นแขนดูเรียวเล็กลง โดยควรทำท่าละ 10-15 ครั้ง 3-5 เซต ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
วิธีกำจัดก้อนไขมันใต้รักแร้ ก้อนไขมันใต้รักแร้เป็นปัญหาที่สามารถสร้างความกังวลใจให้กับหลายๆ คนได้ ทั้งในเรื่องของความสวยงาม และความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าที่โชว์บริเวณรักแร้ ปัจจุบันมีวิธีการกำจัดก้อนไขมันใต้รักแร้ที่หลากหลาย ทั้งแบบไม่ต้องผ่าตัดและแบบผ่าตัด วิธีไหนจะเหมาะสมกับคุณมากที่สุด ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดและความหนาแน่นของก้อนไขมัน รวมถึงงบประมาณและความต้องการของคุณ วิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด การฉีดเมโสแฟต เป็นวิธีการฉีดยาที่ช่วยสลายไขมันเข้าไปยังบริเวณที่มีก้อนไขมันใต้รักแร้ โดยยาจะเข้าไปทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกกำจัดออกจากร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีก้อนไขมันขนาดเล็กไม่มากนัก วิธีนี้มีราคาไม่สูงมาก และไม่ต้องพักฟื้น การใช้เครื่องมือดูดไขมันแบบพลังงานสูง (Body Tite หรือ VASER) เป็นวิธีการใช้เครื่องมือขนาดเล็กที่มีพลังงานความถี่วิทยุหรืออัลตราซาวด์เข้าไปสลายเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกดูดออกมาจากร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีก้อนไขมันขนาดเล็กถึงกลาง และต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าการฉีดเมโสแฟต วิธีนี้มีราคาสูงกว่าการฉีดเมโสแฟต และอาจมีอาการบวมช้ำหลังทำได้บ้าง การทำคูลสคัลป์ติ้ง เป็นวิธีการใช้ความเย็นระดับเยือกแข็งเข้าไปทำลายเซลล์ไขมัน โดยความเย็นจะเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันตาย และถูกกำจัดออกจากร่างกายในภายหลัง เหมาะสำหรับผู้ที่มีก้อนไขมันขนาดเล็กถึงกลาง วิธีนี้มีราคาค่อนข้างสูง และต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน วิธีผ่าตัด การตัดก้อนไขมันใต้รักแร้ เป็นวิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่ใช้มีดผ่าตัดในการกำจัดก้อนไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีก้อนไขมันขนาดใหญ่และหนาแน่น วิธีนี้มีราคาไม่สูงมาก และให้ผลลัพธ์ที่ถาวร แต่มีข้อเสียคืออาจมีแผลเป็นหลังทำได้ ราคาและสถานที่ทำ ราคาของการกำจัดก้อนไขมันใต้รักแร้จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีการที่เลือก สถานที่ทำ และแพทย์ที่ทำ โดยทั่วไปแล้ว วิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัดจะมีราคาถูกกว่าวิธีการผ่าตัด และคลินิกเสริมความงามที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมักจะมีราคาที่สูงกว่า คลินิกทั่วไป […]
รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ลั่นกลองรบเตรียมระดมทุน ทรานสฟอร์มสู่รพ.นวัตกรรมความงามเฉพาะทาง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เดินหน้าระดมทุน เพื่อทรานสฟอร์มธุรกิจก้าวสู่การเป็นศูนย์บริการนวัตกรรมความงามครบวงจรเฉพาะทาง ทุ่มเทงบลงทุนด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพิ่มศักยภาพเทคโนโลยีการรักษา เล็งเปิดสาขาทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังมองเห็นโอกาสความต้องการด้านบริการความงามพุ่งสูง นายแพทย์รณชัย รัตตินันท์นนท์ กรรมการบริหารและแพทย์ผู้ก่อตั้ง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจความงามในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิดที่มูลค่าตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะคนไทยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงามมากขึ้น จึงทำให้รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยตั้งเป้าที่จะทรานสฟอร์มสู่การเป็นศูนย์บริการความงามครบวงจรเฉพาะทาง ด้วยการยกระดับเทคโนโลยีการรักษา นำเข้าเครื่องมือที่ทันสมัย และลงทุนในการพัฒนาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อให้บริการที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ “การระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการขยายการลงทุนด้านต่างๆ ทั้งด้านเทคโนโลยีการรักษาขั้นสูง เพิ่มศักยภาพของแพทย์เฉพาะทาง และขยายสาขาไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพราะเราเล็งเห็นว่า ยังมีพื้นที่อีกมากที่ยังขาดแคลนบริการด้านความงามที่ได้มาตรฐาน และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิด ” นายแพทย์รณชัย กล่าว นายวศิน รัตตินันท์นนท์ กรรมการบริหารและ Chief Operating Officer รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เผยว่า […]
ผู้หญิงเล่นเวท ช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนักเร็วขึ้น การเล่นกล้ามเล่นเวท นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดไขมัน เพราะการเล่นเวทช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่าไขมัน
อาหารสร้างกล้ามท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์: 6 อาหารที่ช่วยลดไขมันหน้าท้องในผู้หญิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลาแซลมอน ปลาแซลมอนอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและช่วยลดระดับอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสะสมไขมันหน้าท้อง อะโวคาโด อะโวคาโดมีไขมันดีที่ช่วยเพิ่มความอิ่ม และลดความอยากอาหารตามหลังมื้อ ทำให้บริโภคแคลอรี่น้อยลงโดยไม่รู้สึกหิวโหย ผักใบเขียว ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม และบรอกโคลี อุดมไปด้วยไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารและลดการอักเสบ ไข่ ไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มและรักษามวลกล้ามเนื้อระหว่างการลดน้ำหนัก ไข่ยังอุดมไปด้วยโคลีน สารอาหารจำเป็นที่ช่วยในการขนส่งไขมันออกจากตับ ข้าวโอ๊ต ข้าวโอ๊ตเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ย่อยช้า ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และลดความหิวโหย นอกจากนี้ ข้าวโอ๊ตยังมีเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ช่วยลดความอยากอาหารและเพิ่มความรู้สึกอิ่ม นมถั่วเหลือง นมถั่วเหลืองมีโปรตีนจากพืชจำนวนมาก ซึ่งช่วยสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มการเผาผลาญ นอกจากนี้ นมถั่วเหลืองยังมีสารอาหารจำเป็นอย่างแคลเซียมและวิตามิน D ซึ่งสำคัญสำหรับสุขภาพโดยรวม
ก่อนผ่าตัดกระเพาะ การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดกระเพาะเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้การผ่าตัดราบรื่นและปลอดภัย รวมถึงช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยควรเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดดังนี้ ปรับเปลี่ยนอาหาร: แพทย์จะแนะนำให้รับประทานอาหารเหลวหรืออาหารอ่อนย่อยง่ายในช่วง 2-3 วันก่อนผ่าตัด เพื่อช่วยให้กระเพาะและลำไส้ว่างเปล่า หยุดสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่จะไปทำลายเนื้อเยื่อปอดและหลอดเลือด ซึ่งอาจส่งผลให้กระบวนการหายเป็นแผลหลังผ่าตัดช้าลง หยุดดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์จะไปลดประสิทธิภาพของยาชาและยาที่ใช้ในการผ่าตัด หยุดทานยาบางชนิด: แพทย์จะแจ้งให้ทราบว่ายาใดที่ควรงดก่อนผ่าตัด เช่น ยาลดความดันเลือด ยาลดการแข็งตัวของเลือด ยาลดน้ำตาลในเลือด เตรียมสภาพจิตใจให้พร้อม: การผ่าตัดกระเพาะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต ควรเตรียมใจให้พร้อมและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัด รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกระเพาะ การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกระเพาะเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้แผลผ่าตัดสมานตัวได้ดีและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดดังนี้ การรับประทานอาหาร: ในช่วงแรกหลังผ่าตัด จะต้องรับประทานอาหารเหลวหรืออาหารอ่อนย่อยง่าย แล้วค่อยๆ เพิ่มอาหารที่มีกากใยเมื่อแผลผ่าตัดสมานตัว โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก เช่น อาหารที่มีไขมันสูง เนื้อเหนียว ขนมหวาน การออกกำลังกาย: หลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ สามารถเริ่มออกกำลังกายเบาๆ ได้ เช่น เดิน ว่ายน้ำ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 6 สัปดาห์แรก […]
การรักษารอยแตกลายหลังคลอด รีวิวพลีชีพ สไตล์ See You Fit Girl คำเตือน : ไม่ใช้อ้างอิงทางการแพทย์ หลังจากที่คลอดลูกสาวตัวน้อย คุณแม่ See You Fit Girl ก็ได้เผชิญกับปัญหาใหญ่กวนใจอย่างรอยแตกลายที่เกิดจากการตั้งครรภ์ เธอจึงได้ทำการรวบรวมวิธีการรักษารอยแตกลายหลังคลอดแบบพลีชีพมาแชร์ให้กับคุณแม่คนอื่นๆ โดยมีทั้งวิธีแบบธรรมชาติและวิธีทางการแพทย์ เพื่อให้คุณแม่เลือกได้ตามความเหมาะสม วิธีแบบธรรมชาติ ทานอาหารที่มีวิตามิน A, C, E และ Zinc ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงและสมานแผล ทานคอลลาเจนเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของชั้นใต้หนัง ทาครีมหรือออยล์ที่มีส่วนผสมของวิตามิน A, C, E และ Zinc เช่น ครีม Retin-A, ครีม Eucerin หรือออยล์ Argan oil ขัดผิวกายด้วยสครับธรรมชาติอย่างน้ำตาลหรือเกลือ เพื่อผลัดเซลล์ที่ตายแล้วและทำให้ครีมซึมซาบเข้าสู่ชั้นใต้หนังได้ดีขึ้น นวดบริเวณที่เป็นรอยแตกลายเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและลดการยึดติดของพังผืด วิธีทางการแพทย์ การรักษาด้วยเลเซอร์ Fractional CO2 ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน การรักษาด้วยคลื่นวิทยุ (RF) ซึ่งเป็นคลื่นที่ช่วยให้เกิดความกระชับและยกกระชับของชั้นใต้หนัง […]
รักษารอยแตกลายหลังคลอด รีวิวแบบพลีชีพ สไตล์ See You Fit Girl หลังจากคลอดลูกน้อย แม้ว่าความปิติจะมากมายแค่ไหน แต่รอยแตกลายที่ทิ้งไว้ก็เป็นเรื่องที่อาจทำให้คุณแม่ทั้งหลายรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจได้ likeSee You Fit Girl ก็เช่นกันที่ในช่วงที่ตั้งท้องใหม่ๆ นั้น ไม่ได้ดูแลตัวเองมากนัก ซึ่งก็เลยทำให้เกิดรอยแตกลายที่บริเวณท้องและสะโพก แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะกลับมามีหุ่นที่กระชับอีกครั้ง likeSee You Fit Girl จึงได้เริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังควบคู่ไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรอยแตกลาย โดยผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ก็คือ “ครีมไบโอ-ออยล์ PurCellin Oil” ซึ่งเป็นแบรนด์ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะมีชื่อเสียงในเรื่องของการดูแลรอยแผลเป็นโดยเฉพาะ likeSee You Fit Girl ก็เลยลองใช้ดู เพราะคิดว่าน่าจะช่วยได้เหมือนกัน ผลลัพธ์ที่ได้ หลังจากที่ใช้ครีมไบโอ-ออยล์มาเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน รอยแตกลายค่อยๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด จนตอนนี้แทบจะมองไม่เห็นแล้วว่าเคยมีรอยแตกลายมาก่อน ยิ่งถ้าหากใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายไปด้วยแล้ว จะยิ่งช่วยให้ผิวกระชับขึ้น รอยแตกลายก็จะยิ่งจางหายไปเร็วขึ้นอีกด้วย วิธีใช้ สำหรับวิธีการใช้นั้น likeSee You Fit Girl จะทาครีมไบโอ-ออยล์บริเวณที่มีรอยแตกลาย เช่น ท้อง […]
กินไข่ต้มทุกวัน ลดน้ำหนักได้จริงหรือ ไข่เป็นอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด เช่น โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ รวมถึงไข่ต้มที่หลายคนเชื่อว่าช่วยลดน้ำหนักได้จริงเมื่อทานทุกวัน คุณประโยชน์ของการกินไข่ต้ม การกินไข่ต้มทุกวันอาจส่งผลดีต่อสุขภาพได้ดังนี้ ให้พลังงานน้อย ไข่ต้ม 1 ฟองให้พลังงานประมาณ 70-80 กิโลแคลอรี่เท่านั้น อิ่มนาน ไข่ต้มมีโปรตีนสูงซึ่งจะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานกว่าอาหารประเภทอื่นๆ จึงช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ลดความอยากอาหาร โปรตีนในไข่ต้มจะช่วยลดระดับฮอร์โมนเกรลินซึ่งกระตุ้นความอยากอาหาร เร่งการเผาผลาญ การย่อยโปรตีนในไข่ต้มจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น มีสารอาหารสูง ไข่ต้มอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินบี12 โฟเลต สังกะสี เหล็ก และซีลีเนียม การกินไข่ต้มอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการกินไข่ต้ม ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วแนะนำไม่เกิน 1-2 ฟองต่อวัน ผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหัวใจหรือโรคไขมันในเลือดสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานไข่มากกว่า 1 ฟองต่อวัน
แก้มไม่เท่ากัน ปรับรูปหน้าให้เท่ากันด้วยการผ่าตัดกระพุ้งแก้ม แก้มเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้าที่มีบทบาทช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีโครงสร้างที่ชัดเจน แต่หากมีปัญหาแก้มไม่เท่ากันก็อาจทำให้ใบหน้าดูไม่บาลานซ์และขาดความมั่นใจได้ โดยมีสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาแก้มไม่เท่ากัน เช่น ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด: โครงสร้างใบหน้าที่ไม่สมมาตรตั้งแต่เกิด การบดเคี้ยว: การเคี้ยวอาหารข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป นิสัยการนอน: การนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานาน การผ่าตัด: ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดบางอย่างในบริเวณใบหน้า การผ่าตัดกระพุ้งแก้มเป็นวิธีการศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาแก้มไม่เท่ากัน โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อปรับขนาดและตำแหน่งของกระพุ้งแก้มให้สมดุลกับอีกข้างหนึ่ง ซึ่งการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ภายใต้การวางยาสลบ หลังการผ่าตัดจะมีอาการบวมและปวดบริเวณที่ผ่าตัด ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นและรับประทานยาแก้ปวด อาการบวมจะค่อยๆ ลดลงภายในไม่กี่สัปดาห์ ในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งๆ การออกกำลังกายหนักๆ และการนอนตะแคงข้างที่ผ่าตัด การผ่าตัดกระพุ้งแก้มสามารถช่วยแก้ไขปัญหาแก้มไม่เท่ากัน เพิ่มความสมดุลให้ใบหน้า และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รีวิวกำจัดเหงื่อ กำจัดกลิ่นเต่าแบบถาวร ด้วยเครื่อง Miradry การกำจัดเหงื่อและกลิ่นตัวเป็นเรื่องที่หลายคนประสบปัญหา แต่การแก้ไขอาการเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับเครื่อง Miradry ถูกออกแบบมาเพื่อการรักษาภาวะเหงื่อออกมากและกลิ่นตัวที่รักแร้ โดยเทคโนโลยีไมโครเวฟพลังงานความร้อนผ่านผิวหนังเข้าไปกำจัดต่อมเหงื่อบริเวณรักแร้ให้ฝ่อลง ขั้นตอนการรักษา การรักษา Miradry เป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยผู้เข้ารับการรักษาจะได้รับยาชาเฉพาะที่เพื่อความสบายตัว ก่อนที่แพทย์จะใช้เครื่อง Miradry ปล่อยพลังงานไมโครเวฟไปยังบริเวณรักแร้ โดยพลังงานความร้อนจะไปทำลายต่อมเหงื่อให้ฝ่อลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ ผลลัพธ์ที่ได้ หลังการรักษาด้วย Miradry ผลลัพธ์จะเริ่มปรากฏภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยเหงื่อและกลิ่นตัวจะลดลงอย่างมากหรือหายไปอย่างถาวรในผู้เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับการรักษาบางรายอาจจำเป็นต้องรับการรักษาเพิ่มเติมเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ข้อดีของ Miradry ผลลัพธ์ถาวรหรือกึ่งถาวร ลดเหงื่อและกลิ่นตัวได้อย่างมาก ขั้นตอนไม่ซับซ้อนและใช้เวลาไม่นาน ความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อควรระวัง อาจมีอาการบวมหรือช้ำเล็กน้อยหลังการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาบางรายอาจรู้สึกระคายเคืองหรือเจ็บเล็กน้อย อาจจำเป็นต้องรับการรักษาเพิ่มเติมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคไต หรือโรคตับ โดยรวมแล้ว Miradry เป็นวิธีแก้ปัญหาการเหงื่อออกมากและกลิ่นตัวที่ได้ผลดีและปลอดภัย ช่วยเพิ่มความมั่นใจและคุณภาพชีวิตให้กับผู้เข้ารับการรักษาได้อย่างมาก